สรุป 30 แนวคิดสั้นๆจากหนังสือ How to Day Trade for a Living เขียนโดย Dr. Andrew Aziz
สรุป 30 แนวคิดสั้นๆจากหนังสือ How to Day Trade for a Living เขียนโดย Dr. Andrew Aziz
.
(นี่ไม่ใช่บทความแนะนำการลงทุน)
.
1. การเทรดให้ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลาพัฒนา ไม่ใช่การรวยข้ามคืน
Andrew Aziz เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการเทรดเป็นกระบวนการวิวัฒนาการ ไม่ใช่การปฏิวัติ คุณจะไม่รวยเร็วจากการเทรดรายวัน มันไม่ใช่การพนันหรือล็อตเตอรี่ แต่เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้และพัฒนาทักษะ
.
2. เทรดเดอร์ควรปฏิบัติต่อการเทรดเหมือนธุรกิจที่ต้องจริงจัง ไม่ใช่การพนัน
การเทรดไม่ใช่เรื่องง่าย และควรถูกมองว่าเป็นธุรกิจที่จริงจัง เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ล้มเหลวในการเทรดคือพวกเขาไม่ได้มองมันเป็นธุรกิจจริงจัง มือสมัครเล่นที่ขาดทุนมักเทรดเพื่อความตื่นเต้นของการพนันระยะสั้นในตลาด
.
3. เทรดเดอร์รายย่อยควรเน้นเทรดหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและปริมาณการซื้อขายสูง (Stocks in Play)
Stocks in Play คือหุ้นที่มีข่าวสดใหม่ ขึ้นหรือลงมากกว่า 2% ก่อนตลาดเปิด มีกิจกรรมการซื้อขายผิดปกติก่อนตลาดเปิด หรือพัฒนาระดับราคาสำคัญในระหว่างวันที่เราสามารถเทรดได้ พฤติกรรมของหุ้นเหล่านี้มักเป็นอิสระจากตลาดโดยรวม
.
4. ควรเทรดในช่วง 2 ชั่วโมงแรกหลังตลาดเปิด เพราะมีความผันผวนสูงสุด
ช่วงเวลาตั้งแต่ตลาดเปิดเวลา 9:30 น. ถึงประมาณ 11:30 น. ตามเวลานิวยอร์ก เป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายและความผันผวนสูงสุด นี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดแบบ Momentum
.
5. การจัดการความเสี่ยงสำคัญกว่าการซื้อขายหุ้น ต้องหาจุดเข้าที่มีความเสี่ยงต่ำแต่ให้ผลตอบแทนสูง
งานของคุณในฐานะเทรดเดอร์รายวันคือการจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่การซื้อและขายหุ้น ความสำเร็จในการเทรดรายวันมาจากการจัดการความเสี่ยง - การหาจุดเข้าที่มีความเสี่ยงต่ำแต่มีโอกาสทำกำไรสูง
.
6. อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุนควรอยู่ที่อย่างน้อย 2:1
Andrew แนะนำว่าอัตราส่วนกำไรต่อขาดทุนขั้นต่ำควรเป็น 2:1 นั่นหมายความว่าโอกาสในการทำกำไรควรมากกว่าความเสี่ยงในการขาดทุนอย่างน้อยสองเท่า
.
7. ไม่ควรเสี่ยงเกิน 2% ของพอร์ตในแต่ละเทรด
คุณไม่ควรเสี่ยงมากกว่า 2% ของบัญชีของคุณในการเทรดใดๆ นี่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความเสี่ยงที่ดี ช่วยป้องกันไม่ให้การขาดทุนครั้งใหญ่ทำลายบัญชีของคุณ
.
8. ควรมีแผนการเทรด (Trade Book/Playbook) ที่ชัดเจน ระบุกลยุทธ์และขั้นตอนการเทรด
ทุกการเทรดที่คุณทำควรเป็นส่วนหนึ่งของ Trade Book หรือ Playbook Trade Book ควรมีชื่อ กฎ และขั้นตอนที่ชัดเจน การสร้างและใช้ Trade Book จะช่วยสร้างความทรงจำของกล้ามเนื้อสำหรับกลยุทธ์ของคุณ
.
9. ทุกเทรดที่เข้าต้องเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในแผน
หากคุณไม่สามารถระบุได้ว่าการเทรดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ใด คุณไม่ควรทำการเทรดนั้น อาจมีโอกาสในการเทรด แต่มันไม่ใช่การเทรดของคุณ
.
10. ควรจำกัดจำนวนเทรดที่ขาดทุนต่อวัน และมีเป้าหมายกำไรรายวัน
การกำหนดขีดจำกัดการขาดทุนรายวันและเป้าหมายกำไรเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายกำไรรายวัน ควรหยุดเทรดหรือเปลี่ยนไปใช้ simulator แทน
.
11. ไม่ควรถือหุ้นข้ามคืน ต้องปิดสถานะทั้งหมดก่อนตลาดปิด
เทรดเดอร์รายวันไม่ควรถือตำแหน่งข้ามคืน หากจำเป็น คุณต้องขายแม้จะขาดทุนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ถือหุ้นใดๆ ข้ามคืน
.
12. ควรใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก โดยเฉพาะการอ่านแท่งเทียน (Candlesticks)
การวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยเฉพาะการใช้แผนภูมิแท่งเทียน เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเทรดเดอร์รายวัน แท่งเทียนสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้และจิตวิทยามวลชนในการเทรด
.
13. แท่งเทียนกลวงแสดงถึงแรงซื้อ แท่งเทียนทึบแสดงถึงแรงขาย
แท่งเทียนกลวง ที่ราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด บ่งชี้ถึงแรงกดดันในการซื้อ แท่งเทียนทึบ ที่ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด บ่งชี้ถึงแรงกดดันในการขาย
.
14. ควรระวังแท่งเทียนที่แสดงความลังเลของตลาด เช่น Doji หรือ Spinning Top
Doji และ Spinning Top เป็นแท่งเทียนที่แสดงความลังเล บ่งชี้ว่ามีการต่อสู้อย่างรุนแรงระหว่างหมีและวัว ยังไม่มีฝ่ายใดชนะการต่อสู้
.
15. กลยุทธ์ ABCD Pattern และ Bull Flag Momentum เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่ควรเรียนรู้
ABCD Pattern และ Bull Flag Momentum เป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์รายวัน ทั้งสองกลยุทธ์นี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุโอกาสในการเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนสูง
.
16. การเทรด Trend Trading และการเทรด Reversal Trading เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ
การเทรดตามแนวโน้มและการเทรดกลับตัวเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ Trend Trading ใช้ Moving Average เป็นเครื่องมือหลัก ในขณะที่ Reversal Trading มักใช้ RSI และรูปแบบแท่งเทียนเฉพาะ
.
17. ควรรอการยืนยันของแนวโน้มก่อนเข้าเทรดเสมอ
ในกลยุทธ์การกลับตัว คุณควรรอการยืนยันว่ารูปแบบกำลังเริ่มกลับตัว มักจะเป็นการก่อตัวของแท่งเทียน Doji หรือแท่งลังเล และแท่งเทียน 1 นาทีหรือ 5 นาทีแรกที่ทำจุดสูงสุดใหม่ใกล้กับระดับสนับสนุนสำคัญในระหว่างวัน
.
18. การใช้เครื่องมือเช่น Moving Average และ RSI ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้ม
Moving Average ช่วยในการระบุแนวโน้มและระดับสนับสนุนและต้านทาน ในขณะที่ RSI (Relative Strength Index) ช่วยระบุสภาวะ overbought และ oversold
.
19. การเทรดที่แนวรับแนวต้าน (Support/Resistance) เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
แนวรับคือระดับราคาที่การซื้อแข็งแกร่งพอที่จะหยุดหรือกลับทิศทางขาลง แนวต้านคือระดับราคาที่การขายแข็งแกร่งพอที่จะหยุดหรือกลับทิศทางขาขึ้น เทรดเดอร์ซื้อที่แนวรับและขายที่แนวต้าน ทำให้ประสิทธิผลของมันเป็นคำทำนายที่เป็นจริงด้วยตัวเอง
.
20. ควรฝึกเทรดด้วย Simulator อย่างน้อย 3 เดือนก่อนเริ่มเทรดจริง
การฝึกฝนด้วย simulator ช่วยให้คุณเรียนรู้และทดสอบกลยุทธ์โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง ควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือนในการฝึกฝนก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง
.
21. ควรเริ่มต้นด้วยขนาดการเทรดที่เล็ก และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อมีประสบการณ์
เริ่มต้นด้วยขนาดการเทรดที่เล็กช่วยลดความเสี่ยงและให้โอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์ เมื่อคุณพัฒนาทักษะและความมั่นใจ คุณสามารถค่อยๆ เพิ่มขนาดการเทรดได้ Andrew แนะนำให้เริ่มต้นด้วยเงินทุนประมาณ $50,000 และเทรดด้วยขนาดประมาณ 2,000 หุ้น
.
22. การบันทึกผลการเทรดช่วยในการวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์
การจดบันทึกการเทรดอย่างสม่ำเสมอช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์ผลงานและปรับปรุงกลยุทธ์ได้ บันทึกควรรวมถึงเหตุผลในการเข้าเทรด จุดเข้า จุดออก และบทเรียนที่ได้รับ
.
23. ควรมีวินัยในการปฏิบัติตามแผน ไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์
วันที่ดีในการเทรดไม่ใช่แค่วันที่มีกำไร แต่เป็นวันที่คุณมีวินัย เทรดตามกลยุทธ์ที่วางแผนไว้ และไม่ละเมิดกฎการเทรดใดๆ การมีวินัยช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการตัดสินใจด้วยอารมณ์
.
24. การเทรดที่ประสบความสำเร็จต้องปราศจากอารมณ์
การเทรดที่ทำกำไรไม่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ใช้อารมณ์ คุณจะสูญเสียเงินของคุณ เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะเทรดเพื่อทักษะ ไม่ใช่เพื่อเงิน
.
25. ควรมีแผนธุรกิจการเทรดที่ครอบคลุมทั้งกรอบการเทรด การพัฒนาทักษะ และการจัดการด้านอื่นๆ
แผนธุรกิจการเทรดควรประกอบด้วยสามส่วนหลัก: กรอบการเทรด (หลักการจัดการเงินและความเสี่ยง กลยุทธ์และรูปแบบที่คุณเทรด กฎการจัดการการเทรด) กิจกรรมที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงหรือสนับสนุนกรอบการเทรด และงานที่ต้องดูแลนอกเหนือจากการเทรดจริง
.
26. เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะมุ่งเน้นที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะมุ่งเน้นที่กระบวนการ พวกเขารับความเสี่ยงแต่ก็จัดการความเสี่ยงนั้น และมีความหลงใหลในสิ่งที่ทำ เหมือนกับนักปีนเขาที่ประสบความสำเร็จ
.
27. ควรมีความหลงใหลในการเทรดและตลาดการเงิน ไม่ใช่แค่เงิน
ความหลงใหลในการเทรดและตลาดการเงินช่วยให้คุณมีแรงผลักดันในการพัฒนาทักษะและเอาชนะความท้าทาย เทรดเดอร์ที่เน้นแค่เงินมักจะล้มเหลวเมื่อเผชิญกับการขาดทุน
.
28. การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเทรดเดอร์ช่วยในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเทรดเดอร์ เช่น ห้องแชท ช่วยให้คุณได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น แลกเปลี่ยนไอเดีย และรับการสนับสนุนทางอารมณ์
.
29. ควรศึกษาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาทักษะ
ตลาดการเงินมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการเรียนรู้และพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ อ่านหนังสือ เข้าร่วมสัมมนา และฝึกฝนในสถานการณ์จำลองเพื่อพัฒนาทักษะของคุณ
.
30. เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะทำเพียง 2-3 เทรดต่อวันเท่านั้น
เทรดเดอร์ที่ทำกำไรมักจะทำเพียงสองหรือสามเทรดต่อวัน จากนั้นพวกเขาจะหยุดและเพลิดเพลินกับช่วงที่เหลือของวัน การเทรดที่น้อยลงแต่มีคุณภาพมากขึ้นมักจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในระยะยาว
.
.
.
.
#SuccessStrategies
.
บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies
.