Winning Zone: เส้นทางสู่ความเทพแบบไม่ต้องง้อเทวดา

Winning Zone: เส้นทางสู่ความเทพแบบไม่ต้องง้อเทวดา
.
Winning Zone ไม่ใช่แค่พื้นที่ในสนามกีฬาหรือร้านเกม และเราจะไม่พูดถึงปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่เราจะพูดถึงสภาวะจิตใจที่ควบคุมได้ ที่จะทำให้คุณเป็น 'เทพ' ในทุกสิ่งที่ทำ
.
มันคือจุดที่คุณรู้สึกว่า "โอ้โห! ทำไมวันนี้ฉันเก่งจัง?" แต่ไม่ใช่แค่วันเดียว มันคือทุกวัน!
.
มูฮัมหมัด อาลี เคยกล่าวว่า "ผมไม่ได้นับจำนวนครั้งที่ซ้อม จนกว่าจะเจ็บ นั่นแหละคือตอนที่การนับเริ่มขึ้น" แต่ถ้าคุณอยู่ใน Winning Zone คุณจะพูดว่า "ผมไม่ได้นับจำนวนครั้งที่ซ้อม เพราะมันสนุกเกินกว่าจะนับ!"
.
แต่คุณรู้ไหมว่าคนที่อยู่ใน Winning Zone ทำอย่างไร? มาดูตัวอย่างจากประวัติศาสตร์กัน!
.

.
-----------------------
.
โจวยู่ กับกองเรือของโจโฉแห่งศึกผาแดง
.
ปี 208 หลังคริสตกาล ปลายสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก โจโฉนำกองทัพเรือขนาดใหญ่กว่าแปดแสนคนเพื่อยึดครองพื้นที่ใต้แม่น้ำแยงซี
.
ในฝั่งหนึ่ง เรามีโจโฉ แม่ทัพผู้ทะเยอทะยานและฉลาดเฉลียว อีกฝั่ง คือ โจวยู่ ผู้มากกลยุทธ์แต่มีกำลังน้อยกว่ามาก และร่วมมือกับเล่าปี่ต่อต้านโจโฉ
.
โจโฉไม่ใช่แค่แม่ทัพธรรมดา เขาเป็นทั้งนักการเมือง กวี นักการทหารที่เก่งกาจ และเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์เว่ย แต่เขาก็มีด้านมืดที่น่ากลัว:
* เคยสั่งสังหารหมู่ชาวเมืองซูโจว เพราะสงสัยว่าอาจเป็นกบฏ
* ชอบใช้อำนาจกำจัดคู่แข่งทางการเมือง ใครขัดใจเป็นได้ไม่จบดี
* มีเรื่องอื้อฉาวกับภรรยาของเหยาชิง คู่ปรับที่เขาสังหาร
.
วันนี้ โจโฉมาพร้อมกองทัพเรือขนาดมหึมา ดูเหมือนงานวันเกิดปลาวาฬยักษ์!
.
ส่วนโจวยู่? มีแค่เรือไม่กี่ลำ ดูเหมือนแพขายก๋วยเตี๋ยวลอยน้ำมากกว่า
.
ทุกคนคิดว่าโจวยู่จะแพ้ราบคาบ แต่เขากลับยิ้มกว้างแบบคนมี Winner's Mindset ราวกับเพิ่งคิดสูตรลับทำให้ผักชีอร่อยได้!
.
เขาประกาศกร้าว "ไม่ต้องกลัว! เดี๋ยวเราจะทำให้กองทัพเรือของโจโฉกลายเป็นบาร์บีคิวลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์!"
.
แผนการสุดเจ๋งของเขาคือ ส่งสายลับไปหลอกโจโฉว่าทหารจะกบฏ วิธีป้องกันคือให้เอาโซ่ล่ามเรือทุกลำเข้าด้วยกัน
.
โจโฉหลงกลง่ายกว่าเด็กหลงเชื่อว่าซานตาคลอสมีจริง! เขาสั่งล่ามเรือทั้งกองทัพเข้าด้วยกันจนดูเหมือนลูกโป่งยักษ์ลอยอยู่กลางแม่น้ำ!
.
จากนั้น โจวยู่ก็ส่งสัญญาณ "ปฏิบัติการบาร์บีคิวยักษ์" เริ่มต้นขึ้น!
.
เรือไฟของเขาพุ่งทะยานเข้าหากองทัพโจโฉเหมือนพิซซ่าร้อนๆ ที่เพิ่งออกจากเตาอบ!
.
ทหารบนเรือไฟตะโกนล้อเลียน "เฮ้ โจโฉ! สั่งบาร์บีคิวเซ็ตใหญ่ใช่ไหม? มาแล้วจ้า!"
.
เรือของโจโฉที่ถูกล่ามติดกันหนีไม่ทัน เริ่มลุกไหม้ทีละลำๆ ดูเหมือนโดมิโนไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก!
.
ทหารโจโฉต่างกระโดดน้ำหนีตายกันอลหม่าน บ้างก็ตะโกน "ช่วยด้วย! ผมว่ายน้ำไม่เป็น!" บ้างก็ร้อง "โอ๊ย! น้ำเย็นกว่าที่คิด!"
.
โจวยู่ยืนดูภาพนี้จากฝั่ง พลางพูดกับที่ปรึกษา "นี่สิ ที่เรียกว่าอาหารเสิร์ฟร้อนๆ ถึงที่!"
.
แม้โจโฉจะพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ แต่เขาก็หนีรอดไปได้ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของโจวยู่ก็ทำให้อำนาจของโจโฉสั่นคลอนอย่างหนัก และเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจในประวัติศาสตร์จีนไปอย่างมาก
.
นี่แหละครับ Winning Zone แบบสุดยอด! โจวยู่ใช้สมองเอาชนะกำลังทหารที่เหนือกว่าของโจโฉ เขาไม่ได้สู้ด้วยอาวุธ แต่สู้ด้วยกลยุทธ์และจิตวิทยา
.

.
-------------------------
.
ลักษณะของคนที่อยู่ใน Winning Zone
.
1. ทำงานแบบสนุก: พวกเขาไม่ได้แค่ 'ทำงาน' แต่พวกเขา 'เอนจอย' กับงาน เหมือนเด็กเล่นเลโก้ แต่แทนที่จะสร้างปราสาทพลาสติก พวกเขาสร้างอาณาจักรธุรกิจ
.
2. มั่นใจแบบไม่กลัวโลก: คนพวกนี้มีความมั่นใจเหมือนแมวที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือ แต่พอเจองานหิน ก็กลายเป็นเสือที่คิดว่าตัวเองเป็นไดโนเสาร์
.
3. มองโลกตามความจริงแบบสุดโต่งในทางที่ดี: เวลาฝนตก คนทั่วไปจะบ่นว่าเปียก แต่คนที่อยู่ใน Winning Zone จะคิดว่า "เย่! ประหยัดค่าน้ำรดต้นไม้!"
.
4. ยืดหยุ่นเหมือนยางยืด: พวกเขาปรับตัวได้เร็วกว่ากิ้งก่าเปลี่ยนสี ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงยังไง พวกเขาก็พร้อมรับมือเสมอ
.
5. เรียนรู้ตลอดเวลา: พวกเขามองทุกประสบการณ์เป็นบทเรียน แม้แต่ความล้มเหลวก็เป็นแค่ "ข้อมูลย้อนกลับ" ที่จะช่วยให้พวกเขาเก่งขึ้น
.
"จงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการจะเห็นในโลกใบนี้" - มหาตมะ คานธี
.
แต่คนใน Winning Zone จะพูดว่า "จงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้โลกต้องหันมามอง แล้วพูดว่า 'อะไรของเขา?'"
.

.
-------------------------
.
วิธีเข้าสู่ Winning Zone
.
1. รู้จักตัวเอง: ถ้าคุณไม่รู้จักตัวเอง ก็เหมือนการยืนหน้าตู้กดเครื่องดื่มแล้วไม่รู้จะเลือกอะไรกด สุดท้ายอาจกดน้ำโซดาในขณะที่คุณอยากได้น้ำส้มแท้ๆ!
.
2. ตั้งเป้าหมายชัดเจน: ใช้หลัก "PURE" (เพราะเราพูดถึงหลัก SMART มาเยอะแล้ว)
- Purpose (มีจุดมุ่งหมายชัดเจน)
- Understand (เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน)
- Realistic (เป็นไปได้จริง)
- Exciting (น่าตื่นเต้นและท้าทาย)
.
3. ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ: ฝึกให้หนักเหมือนนักมวยที่ซ้อมชกกระสอบทราย แต่แทนที่จะชกกระสอบทราย ให้ชกปัญหาในชีวิตแทน
.
4. มีทัศนคติเชิงบวก: มองโลกในแง่ดีเหมือนคนที่คิดว่าการจราจรติดขัดคือโอกาสในการฟังพอดคาสต์จบทั้งซีซั่น
.

.
------------------------
.
อุปสรรคที่ขัดขวางการเข้าสู่ Winning Zone
.
1. ความกลัว: มันเหมือนผีที่หลอกคุณ แต่พอเปิดไฟ ก็พบว่ามันแค่เสื้อคลุมที่แขวนอยู่หลังประตู
.
2. ความขี้เกียจ: มันคือยางรถที่แบนในการเดินทางสู่ความสำเร็จ ถ้าไม่เปลี่ยน ก็ได้แต่นั่งข้างทางดูคนอื่นขับผ่านไป
.
3. การผัดวันประกันพรุ่ง: นี่คือศิลปะของการทำให้อนาคตกลายเป็นอดีตโดยไม่ต้องผ่านปัจจุบัน
.

.
--------------------------
.
เทคนิคการรักษาสภาวะ Winning Zone แบบไม่เกรงใจใคร
.
ฝึกสติและการจดจ่อ : ทำตัวเหมือนนักมวยปล้ำที่กำลังพยายามจดจ่อกับคู่ต่อสู้ แต่ดันมีตุ๊กตาลิงโผล่มาเต้นระบำหน้าเวที! ฝึกอยู่กับปัจจุบันขณะ แม้ว่าปัจจุบันขณะนั้นจะบ้าบอแค่ไหนก็ตาม
.
สร้างวินัยให้ตัวเอง : สร้างวินัยให้แข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า แต่ยืดหยุ่นเหมือนยางยืด ลองนึกภาพเหล็กกล้าที่ยืดได้สิ! นั่นแหละคือคุณ - แข็งแกร่งแต่ไม่แตกหัก ยืดหยุ่นแต่ไม่ขี้เกียจ
.
ใช้หลัก Kaizen (ไคเซ็น) : ปรับปรุงตัวเองวันละ 1.37% เพราะ 1% มันธรรมดาเกินไป และ 2% มันเยอะเกินไป แต่ 1.37% นี่แหละ ลงตัวพอดี! ในหนึ่งปีคุณจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังเพิ่มขึ้น 500% - หรือแค่เป็นคนที่เก่งขึ้นมากๆ ก็ได้
.
ปฏิบัติตามกฎ 79/21/3.14 (หลักการพาเรโต้แบบพิลึก) : มุ่งเน้น 21% ของงานที่สร้างผลลัพธ์ 79% และใช้เวลาอีก 3.14% กินพายฉลองความสำเร็จ! เพราะเราเป็นคน Winning Zone เราต้องมีตัวเลขที่ไม่เหมือนใคร และต้องมีของหวานด้วย!
.
พูดถึงอาหาร อาหารก็มา …
.

.
--------------------------
.
อีก 2 ตัวอย่างในประวัติศาสตร์ของคนที่ใช้ Winning Zone
.

.
เรย์ ครอค ผู้ปฏิวัติวงการฟาสต์ฟู้ด
.
เรย์ ครอค ผู้ก่อตั้งแมคโดนัลด์ในรูปแบบที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ ใช้ Winning Zone ของเขาในการปฏิวัติวงการอาหารจานด่วน
.
ในปี 1954 ครอคเห็นโอกาสในร้านแฮมเบอร์เกอร์เล็กๆ ของพี่น้องแมคโดนัลด์ แทนที่จะแค่ซื้อแฟรนไชส์ เขากลับคิดนอกกรอบ:
.
"ถ้าเราทำร้านอาหารเหมือนสายการผลิตในโรงงานล่ะ?"
.
ครอคปรับระบบการทำงานใหม่หมด:
- ลดเมนูให้เหลือแค่ไม่กี่อย่าง แต่ทำได้เร็วและคุณภาพคงที่
- ออกแบบครัวใหม่ให้เหมือนสายพานการผลิต เพิ่มความเร็วในการทำอาหาร
- ใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง ลดเวลาล้างจาน
- สร้างมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์เหมือนกันไม่ว่าจะไปกินที่ไหน
.
ผลลัพธ์? แมคโดนัลด์กลายเป็นจักรวรรดิอาหารจานด่วนระดับโลก!
.
นี่คือ Winning Zone ของครอค! เขามองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองข้าม และกล้าที่จะทำลายกฎเก่าๆ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่า
.

.
--------------------------
.
มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ : นักเทศน์ผู้พลิกโฉมอเมริกาด้วยความฝันและไมโครโฟน
.
ย้อนกลับไปปี 1963 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. บรรยากาศตึงเครียดยิ่งกว่าการรอผลสอบมัธยมปลาย! ความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติกำลังระอุ ผู้คนแบ่งแยกกันเหมือนน้ำกับน้ำมัน
.
แต่แล้ว! ดร. คิงก็ก้าวขึ้นเวที เขาไม่ได้พกอาวุธ ไม่ได้สวมชุดเกราะ สิ่งเดียวที่เขามีคือไมโครโฟนและความฝันในกระเป๋าหลัง!
.
เขาเริ่มต้นด้วยประโยค "เมื่อหนึ่งร้อยปีที่แล้ว ชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ …บลาๆๆ " ทุกคนเงียบกริบ
.
คนในที่ประชุมกระซิบกัน "เฮ้ย! นี่เขากำลังจะสอนประวัติศาสตร์เหรอ? ฉันนึกว่ามาฟังคอนเสิร์ตซะอีก!"
.
แต่แล้วในที่สุด! ดร. คิงก็พลิกโฉมการปราศรัยด้วยประโยคเด็ด "ผมมีความฝัน..." ทุกคนตาโต แม้แต่นกพิราบยังหยุดขี้บนรูปปั้นลินคอล์น!
.
เขาพูดต่อ "ผมฝันว่าสักวันหนึ่ง บนเนินเขาแดงในจอร์เจีย ลูกหลานของทาสในอดีตและลูกหลานของเจ้าของทาสจะสามารถนั่งร่วมโต๊ะแห่งภราดรภาพด้วยกันได้"
.
คนในที่ประชุม: "โอ้โห! นี่มันไม่ใช่แค่โต๊ะธรรมดา นี่มันโต๊ะในฝันที่ใหญ่กว่าโต๊ะจีนงานแต่งอีก!"
.
ดร. คิงใช้ภาพพจน์ที่ชัดเจน จังหวะการพูดที่ไพเราะ และการซ้ำคำอย่างมีพลัง จนทำให้คนนับแสนรู้สึกเหมือนกำลังดูคอนเสิร์ตร็อคที่มีเพลงเดียวแต่ไพเราะที่สุดในชีวิต!
.
เขาพูดถึงความหวังและเสรีภาพ จนคนฟังรู้สึกว่าพวกเขากำลังจะบินได้ มีคนแอบกระซิบกันว่า "นี่เราฟังอยู่หรือเรากำลังฝันไปเนี่ย?"
.
สุดท้าย เมื่อ ดร. คิงจบสุนทรพจน์ ทุกคนปรบมือกันสนั่นหวั่นไหว เสียงดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่า! มีคนถึงกับพูดว่า "โอ้โห! ถ้าเขาพูดต่ออีกนิด ผมคงลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าได้แน่ๆ เหมือนในความฝันของเขาเลย!"
.
ผลลัพธ์? สุนทรพจน์นี้ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงอเมริกา แต่มันยังทำให้คนทั้งโลกหันมามองว่าการพูดสามารถทรงพลังยิ่งกว่าระเบิดปรมาณู!
.
นี่แหละครับ Winning Zone ของ ดร. คิง! เขาใช้พลังของคำพูดเปลี่ยนโลกทั้งใบ โดยไม่ต้องยกนิ้วขึ้นมาสักนิ้ว ยกเว้นตอนชี้ฟ้าตอนพูดถึงความฝัน
.

.
-----------------------
.
และทั้งหมดนี้ก็คือบทพิสูจน์ว่า Winning Zone ไม่จำเป็นต้องมีอาวุธ ไม่ต้องมีเงินทุนมหาศาล
.
แค่คุณรู้จักตัวเอง มีความเชื่อมั่น มีการเตรียมพร้อม หรือมีสมองที่เฉียบคม มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ และลงมือทำ!
.
หรืออย่างน้อยๆก็มีปากที่พูดเก่ง บวกกับไมโครโฟนดีๆสักตัว คุณก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้แล้ว
.
.
"ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ และถ้าคุณเชื่อว่าคุณบินได้ ลองกระโดดลงจากเตียงดูก่อน!"
-ผู้เชี่ยวชาญด้านมายด์เซ็ตแบบผู้ชนะ
.
.
.
.
#SuccessStrategies #WinningZone #WinnerMindset

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

https://www.facebook.com/pond.atichat

Previous
Previous

ซุนวูกับคัมภีร์พิชัยสงคราม

Next
Next

มหากาพย์การค้นหาอนุภาคพระเจ้า (God Particle)