ความต่อเนื่องคือพลัง

เคล็ดลับลับสุดยอดในการพัฒนาตนเองแบบไม่มีสะดุด!
.
วันนี้เรามาเจาะลึกเคล็ดลับสุดยอดที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณจาก "คนธรรมดา" ให้กลายเป็น "ผู้ประสบความสำเร็จ" กันแบบก้าวกระโดด! หรือเปลี่ยนคุณจาก "มนุษย์โปเกมอนที่ยังอัพเกรดไม่เสร็จ" ให้กลายเป็น "เทพเจ้าโอลิมปัสที่ลงมาเดินดิน" กันแบบฉับพลัน!
.
ความลับสุดยอดนั้นก็คือ... "ความต่อเนื่องคือพลัง!" (継続は力なり - Keizoku wa chikara nari)
.
ใช่แล้วครับ! คุณไม่ได้อ่านผิด และผมก็ไม่ได้พิมพ์ผิด (แต่ถ้าผมพิมพ์ผิด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ) "ความต่อเนื่องคือพลัง" หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "継続は力なり" (Keizoku wa chikara nari) นี่แหละคือสูตรวิเศษที่จะทำให้คุณกลายเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวคุณเอง!
.
แต่ก่อนที่คุณจะเริ่มทำอะไรซ้ำ ๆ แบบไร้จุดหมาย (เช่น เช็คอีเมลทุก 5 นาที จนลืมทำงานจริงๆ) มาดูกันดีกว่าว่าทำไม "ความต่อเนื่อง" ถึงทรงพลังนัก
.
.
--------------------------
.
ทำไม "ความต่อเนื่อง" ถึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ?
.
1. พลังแห่งการสะสม
ลองนึกถึงเงินออมสิครับ เหมือนกับการปลูกต้นไม้เลยนะ ถ้าคุณหยอดกระปุก (หรือรดน้ำต้นไม้แห่งความมั่งคั่ง) วันละ 100 บาท ผ่านไป 1 ปี คุณจะมีเงิน 36,500 บาท! หรือ 36,600 บาทในปีอธิกสุรทิน เพราะแม้แต่ปฏิทินก็ยังรู้จักการออมเพิ่ม!
.
แต่ถ้าคุณเอาต้นไม้นี้ไปปลูกในสวนแห่งการลงทุนที่ให้ผลตอบแทน 5% ต่อปี (ซึ่งก็คือปุ๋ยวิเศษนั่นแหละ) หลังจาก 30 ปี ต้นไม้ของคุณจะโตขึ้นเป็นยักษ์ มีมูลค่าถึง 2,714,889 บาท! นั่นเพียงพอที่จะซื้อรถยนต์สักคันได้แล้วล่ะ ตามค่าเงินในอนาคต... และถ้าคุณยังขับรถไหวนะ (ไม่แน่นะ อาจจะมีรถบินขายแล้วก็ได้)
.
ความต่อเนื่องทำให้เกิดการสะสมไม่เพียงแค่เรื่องเงินเท่านั้น แต่รวมถึงความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ด้วย คิดดูสิครับ ถ้าคุณอ่านหนังสือวันละ 10 หน้าเป็นเวลา 1 ปี คุณจะอ่านหนังสือได้ 3,650 หน้า! นั่นเท่ากับหนังสือประมาณ 12-15 เล่มเลยทีเดียว คุณลองนึกภาพดูว่าความรู้ที่คุณจะได้รับมันมากมายแค่ไหน
.
.
2. การเอาชนะความเฉื่อย
เคยสังเกตไหมว่าการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างมันยากเย็นแสนเข็ญแค่ไหน? แต่พอทำไปเรื่อย ๆ มันกลับง่ายขึ้น? นั่นเพราะคุณกำลังเอาชนะ "แรงเฉื่อยแห่งความขี้เกียจ" อยู่! เหมือนกับการผลักรถยนต์ที่จอดนิ่ง ตอนแรกมันหนักมาก แต่พอรถเริ่มเคลื่อน มันก็จะง่ายขึ้นเรื่อย ๆ (แต่อย่าลืมปลดเบรกมือออกก่อนนะครับ ไม่งั้นคุณอาจจะได้ออกกำลังกายฟรีไปทั้งวัน)
.
ในทางจิตวิทยา เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "แรงเฉื่อยทางพฤติกรรม" (Behavioral Momentum) ซึ่งอธิบายว่าเมื่อเราทำอะไรซ้ำ ๆ มันจะกลายเป็นนิสัยและทำให้เรารู้สึกว่าการทำสิ่งนั้นง่ายขึ้นเรื่อย ๆ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำถึงรู้สึกว่าการไปยิมเป็นเรื่องง่าย ในขณะที่คนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยจะรู้สึกว่ามันเป็นภารกิจที่ยากเย็นแสนเข็ญ
.
.
3. การสร้างความเชี่ยวชาญ
มีคนเคยพูดไว้ว่าต้องใช้เวลา 10,000 ชั่วโมงในการฝึกฝนเพื่อให้เชี่ยวชาญในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ต้องตกใจไปครับ! แม้คุณจะฝึกแค่วันละชั่วโมง ใน 27 ปีคุณก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้แล้ว! (แต่ถ้าคุณอายุ 60 แล้ว อาจจะต้องเร่งมือหน่อยนะครับ )
.
แต่ความจริงแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรอถึง 10,000 ชั่วโมงเพื่อเห็นผลลัพธ์หรอกครับ การฝึกฝนอย่างต่อเนื่องแม้เพียงวันละนิดก็สามารถสร้างความก้าวหน้าได้อย่างน่าทึ่ง ลองนึกถึงการเรียนภาษาใหม่สิครับ ถ้าคุณเรียนคำศัพท์ใหม่วันละ 5 คำ ใน 1 ปีคุณจะรู้คำศัพท์ถึง 1,825 คำ! นั่นมากพอที่จะทำให้คุณสื่อสารในชีวิตประจำวันได้แล้วล่ะ
.
.
--------------------------
.
แล้วเราจะใช้พลังนี้ยังไงดี?
.
1. เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ
อย่าเพิ่งตั้งเป้าว่าจะวิ่งมาราธอนพรุ่งนี้ ถ้าปกติคุณแค่วิ่งไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย เริ่มจากวิ่งวันละ 5 นาทีก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ไม่นานคุณจะวิ่งได้ไกลพอที่จะซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ... อีกซอยนึง! (และอาจจะประหยัดค่าส่งอาหารได้ด้วย)
.
2. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
แทนที่จะบอกว่า "ฉันจะเก่งภาษาอังกฤษ" ลองตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น "ฉันจะดูซีรีส์ภาษาอังกฤษวันละ 1 ตอนโดยไม่เปิดซับไตเติ้ล" (แต่ถ้าคุณเลือกดู Game of Thrones ล่ะก็ อาจจะต้องเตรียมพจนานุกรมศัพท์โบราณไว้ด้วยนะ)
.
3. สร้างระบบติดตามผล
ใช้แอพหรือสมุดบันทึกเพื่อติดตามความก้าวหน้าของคุณ การเห็นว่าคุณทำอะไรไปแล้วบ้างจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณทำต่อไป! แถมยังเป็นหลักฐานยืนยันความเจ๋งของคุณได้ด้วย เผื่อวันหนึ่งมีคนมาท้าว่า "คุณทำไม่ได้หรอก" คุณก็แค่ยื่นสมุดบันทึกให้เขาดู แล้วพูดเท่ ๆ ว่า "อ่านซะ แล้วจงทึ่งซะ!"
.
4. ให้รางวัลตัวเอง
เมื่อคุณทำได้ตามเป้าหมาย อย่าลืมให้รางวัลตัวเองบ้าง! แต่ระวังนะ ถ้าเป้าหมายของคุณคือการลดน้ำหนัก การให้รางวัลตัวเองด้วยเค้กทั้งก้อนอาจจะไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก (เว้นแต่ว่าคุณจะวิ่งรอบเค้กนั้น 100 รอบก่อนกิน)
.
.
--------------------------
.
แล้วถ้าล้มเหลวล่ะ?
.
อย่าตกใจไปครับ! แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกก็ยังมีวันที่พลาดท่าเลอะเทอะเหมือนกัน
.
ถ้าคุณพลาดวันนึง ก็แค่เริ่มต้นใหม่ในวันถัดไป อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำลายความพยายามทั้งหมดของคุณ! จำไว้ว่า แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกก็ยังมีการทดลองที่ล้มเหลวเป็นร้อยครั้งก่อนจะค้นพบสิ่งยิ่งใหญ่
.
วิธีรับมือกับความล้มเหลว:
.
1. มองว่าเป็นโอกาสในการเรียนรู้ ไม่ใช่จุดจบ
2. วิเคราะห์ว่าอะไรทำให้คุณล้มเหลว และหาทางแก้ไข
3. ปรับเป้าหมายให้เหมาะสมกับความสามารถปัจจุบันของคุณ
4. ขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องนั้น ๆ
5. จดจำความรู้สึกตอนที่ประสบความสำเร็จ และใช้มันเป็นแรงผลักดันให้ลุกขึ้นสู้ใหม่
.
.
---------------------------
.
ตัวอย่างความสำเร็จจากความต่อเนื่อง
.
1. Warren Buffett และการลงทุน
Warren Buffett เริ่มลงทุนตั้งแต่อายุ 11 ขวบ และยังคงลงทุนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผลลัพธ์? เขากลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก!
.
บทเรียนจาก Warren Buffett:
- ลงทุนในสิ่งที่คุณเข้าใจ
- มองการลงทุนในระยะยาว
- เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
- อดทนและไม่ตัดสินใจด้วยอารมณ์
.
.
2. Stephen King และการเขียนหนังสือ
Stephen King เขียนหนังสืออย่างน้อยวันละ 2,000 คำมาเป็นเวลาหลายสิบปี ผลลัพธ์? เขาเป็นนักเขียนที่ขายดีที่สุดคนหนึ่งของโลก มีผลงานมากกว่า 60 เล่ม!
.
เคล็ดลับความสำเร็จของ Stephen King:
- สร้างตารางเวลาการเขียนที่แน่นอนและทำตามอย่างเคร่งครัด
- ตั้งเป้าหมายจำนวนคำที่จะเขียนในแต่ละวัน
- อ่านหนังสือมาก ๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และแรงบันดาลใจ
- ไม่กลัวที่จะแก้ไขและปรับปรุงงานเขียน
.
.
3. Haruki Murakami และการวิ่ง
Haruki Murakami นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น วิ่งเป็นประจำทุกวันมานานกว่า 30 ปี ผลลัพธ์? นอกจากจะมีสุขภาพดีแล้ว เขายังได้แรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือจากการวิ่งด้วย! (แถมยังประหยัดค่ารถได้อีกต่างหาก)
.
สิ่งที่เราเรียนรู้ได้จาก Haruki Murakami:
- การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์
- การทำกิจกรรมที่ซ้ำ ๆ (เช่น การวิ่ง) ช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิ
- ความต่อเนื่องในด้านหนึ่งสามารถส่งผลดีต่อด้านอื่น ๆ ในชีวิตได้
- การสร้างสมดุลระหว่างงานและการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ
.
.
-------------------------
.
เทคนิคเพิ่มเติมในการสร้างความต่อเนื่อง
.
1. การใช้เทคนิค Pomodoro
แบ่งเวลาทำงานออกเป็นช่วงละ 25 นาที สลับกับการพัก 5 นาที ทำแบบนี้ 4 รอบ แล้วพักยาว 15-30 นาที วิธีนี้ช่วยให้คุณมีสมาธิและทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
.
2. การสร้าง Habit Stack
เชื่อมโยงนิสัยใหม่ที่คุณต้องการสร้างเข้ากับนิสัยที่มีอยู่แล้ว เช่น "หลังจากแปรงฟันเสร็จ ฉันจะท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ 5 คำ" วิธีนี้ช่วยให้การสร้างนิสัยใหม่ง่ายขึ้น เพราะเชื่อมโยงกับสิ่งที่คุณทำเป็นประจำอยู่แล้ว
.
3. การใช้ "Don't Break the Chain" Method
วิธีนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเขียนและคนสร้างสรรค์ โดยใช้ปฏิทินและทำเครื่องหมาย X ในทุกวันที่คุณทำกิจกรรมที่ต้องการสร้างความต่อเนื่อง เมื่อทำไปเรื่อย ๆ คุณจะเห็นสาย X ที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งจะสร้างแรงจูงใจให้คุณไม่อยาก "ทำลายสาย" นั้น
.
4. การหาคู่หูในการทำกิจกรรม
การมีเพื่อนหรือคู่หูในการทำกิจกรรมจะช่วยเพิ่มความรับผิดชอบและแรงจูงใจ คุณสามารถแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์หรือคอยให้กำลังใจกันเมื่อรู้สึกท้อ
.
.
-------------------------
.
แบบทดสอบว่าคุณมีพลังความต่อเนื่องในระดับไหนกันแน่?
.
ลองมาทดสอบกันดูว่าคุณมีพลังความต่อเนื่องมากแค่ไหน! ตอบคำถาม 5 ข้อนี้แล้วดูผลลัพธ์กันครับ!
.
.
1. เมื่อคุณตั้งใจจะออกกำลังกาย คุณทำอย่างไร?
A) ฉันวิ่งทุกวันจนรองเท้าผ้าใบร้องขอชีวิต!
B) ฉันออกกำลังกายโดยการกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวี นิ้วฉันแข็งแรงมาก!
C) ฉันเดินไปซื้อฮอทดอกที่ร้านหน้าปากซอยทุกวัน
.
.
2. เมื่อคุณเริ่มดูซีรีส์เรื่องใหม่ คุณทำอย่างไร?
A) ฉันดูจนจบภายใน 24 ชั่วโมง แล้วก็เขียนบทวิจารณ์ยาว 5000 คำลงบล็อก
B) ฉันดูจนหลับ ตื่นมาก็ลืมว่าดูถึงไหน เลยต้องดูใหม่ตั้งแต่ต้น วนไปเรื่อยๆ
C) ฉันแอบดูสปอยล์ก่อน ถ้าพระเอกตายฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาดู
.
.
3. เมื่อคุณตั้งใจจะเก็บเงิน คุณทำอย่างไร?
A) ฉันใส่เงินในกระปุกออมสินทุกวัน จนกระปุกหมูกลายพันธุ์เป็นไดโนเสาร์
B) ฉันพยายามเก็บเงิน แต่สุดท้ายก็เอาไปเล่นหวยหมด เพราะมันคือการลงทุน
C) ฉันแอบขโมยเงินจากกระปุกออมสินของตัวเอง แล้วก็รู้สึกผิดจนต้องคืนพร้อมดอกเบี้ย
.
.
4. เมื่อคุณตั้งใจจะเรียนภาษาใหม่ คุณทำอย่างไร?
A) ฉันฝึกทุกวันจนฝันเป็นภาษาต่างประเทศ และตื่นมางงว่าตัวเองเป็นใคร
B) ฉันสั่งอาหารเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ร้านอาหารไทย เจ้าของร้านชมว่าฉันพูดไทยสำเนียงแปลกดี
C) ฉันพยายามสื่อสารกับสุนัขข้างบ้านผ่านความคิด
.
.
5. เมื่อคุณตั้งใจจะทำความสะอาดบ้าน คุณทำอย่างไร?
A) ฉันขัดพื้นทุกวันจนเงาวับ เพื่อนบ้านต้องใส่แว่นกันแดดเวลามาเยี่ยม
B) ฉันปล่อยให้แบคทีเรียทำลายกันเอง เรียกว่าเป็นระบบนิเวศน์ทำความสะอาดตัวเอง
C) ฉันวิ่งเร็วมากเวลาอยู่ในบ้าน ฝุ่นตามไม่ทันหรอก!
.
.
ผลการทดสอบ:
.
- ถ้าคุณตอบ A เยอะที่สุด: คุณมีพลังความต่อเนื่องระดับเทพ
- ถ้าคุณตอบ B เยอะที่สุด: คุณมีพลังความต่อเนื่องในการหาข้ออ้าง
- ถ้าคุณตอบ C เยอะที่สุด: คุณมีพลังความต่อเนื่องในการคิดนอกกรอบ
.
ไม่ว่าผลจะออกมายังไง จำไว้นะครับว่า "ความต่อเนื่องคือพลัง!"
.
.
------------------------------
.
[ บทสรุป ]
.
"ความต่อเนื่องคือพลัง" หรือ "継続は力な ไม่ใช่แค่คำคมติดตู้เย็น แต่เป็นสูตรวิเศษที่จะทำให้คุณ "อัพเกรด" จากเวอร์ชัน "มนุษย์โปเกม่อน" เป็น "มาสเตอร์โปเกม่อน" ได้!
.
เหมือนการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกมื้อ สุดท้ายคุณอาจไม่ได้กลายเป็นเส้นบะหมี่ แต่รับรองว่าความอดทนของกระเพาะคุณจะแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน!
.
.
ความสำเร็จไม่ได้มาแบบ "กดสั่งวันนี้ ส่งฟรีพรุ่งนี้" แต่มันเกิดจากการลงมือทำทีละนิด วันแล้ววันเล่า เหมือนมดที่พยายามแบกเศษขนมปังกลับรัง... แต่คุณไม่ใช่มด คุณเป็นมนุษย์! คุณสามารถแบกขนมปังทั้งก้อนได้! (แต่อย่าลืมจ่ายเงินก่อนล่ะ)
.
.
ทุกครั้งที่คุณรู้สึกท้อ ขอให้นึกถึงต้นไม้ที่งอกออกมาจากรอยแตกของพื้นคอนกรีต มันไม่ได้โผล่มาชั่วข้ามคืน แต่มันไม่เคยหยุดที่จะพยายาม และดูสิ สุดท้ายมันก็ชนะคอนกรีตได้! คุณก็เช่นกัน อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในตอนแรก แต่วันหนึ่งคุณจะ "ทะลุ" ขีดจำกัดของตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อครับ
.
.
.
.
#SuccessStrategies

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

https://www.facebook.com/pond.atichat

Previous
Previous

Lagom : ปรัชญาชีวิตแสนอบอุ่นของชาวสวีเดน

Next
Next

สโตอิก ปรัชญาที่คุณอาจต้องร้องไห้ (เพราะมันเจ๋งเกินไป! และบทความนี้ก็ยาวเกินไป!)