สโตอิก ปรัชญาที่คุณอาจต้องร้องไห้ (เพราะมันเจ๋งเกินไป! และบทความนี้ก็ยาวเกินไป!)

สโตอิก ปรัชญาที่คุณอาจต้องร้องไห้ (เพราะมันเจ๋งเกินไป! และบทความนี้ก็ยาวเกินไป!)

.

แก่นของปรัชญานี้คือการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติและเหตุผล (Logos) โดยเชื่อว่าจักรวาลถูกกำหนดโดยกฎธรรมชาติที่แน่นอน และมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนี้ ถ้าคุณเคยรู้สึกว่าชีวิตไม่มีความหมาย ลองคิดใหม่นะครับ เพราะตามหลักสโตอิกแล้ว คุณไม่ได้แค่มีความหมาย แต่คุณเป็นส่วนสำคัญของจักรวาลเลยครับ

.

มาดูกันว่าสโตอิกจะเปลี่ยนมุมมองความคิดคุณอย่างไร

.

-------------------------

.

1. คุณคิดว่าตัวเองเหงา? สโตอิกบอกว่าคุณเชื่อมโยงกับทุกอย่าง... แม้แต่ขยะในถังข้างบ้าน

.

สโตอิกมองว่าจักรวาลเป็นหนึ่งเดียว (Cosmic Unity) และทุกสิ่งเชื่อมโยงกัน แนวคิดนี้นำไปสู่ "Sympatheia" หรือความเห็นอกเห็นใจต่อทุกสรรพสิ่ง พวกเขาเชื่อในแนวคิด "Pneuma" หรือ "ลมหายใจของจักรวาล" ซึ่งเป็นพลังงานที่แทรกซึมอยู่ในทุกสิ่ง

.

ตามหลักการนี้ คุณไม่ได้แค่เชื่อมโยงกับทุกคนบนโลก แต่คุณยังเชื่อมโยงกับดวงดาว ต้นไม้ และแม้แต่ก้อนหินด้วย!

.

-------------------------

.

2. คุณคิดว่าตัวเองฉลาด? สโตอิกท้าให้คุณแยกแยะระหว่างความเชื่อกับความรู้จริง

.

สโตอิกเชื่อว่าความรู้มาจากประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส แต่ต้องผ่านการกลั่นกรองด้วยเหตุผล พวกเขาแบ่งความเชื่อเป็น 3 ระดับ:

.

1. Doxa: ความเห็นหรือความเชื่อทั่วไป (เช่น "ผมคิดว่าพิซซ่าอร่อยที่สุดในโลก")

2. Katalepsis: ความเข้าใจที่ชัดเจน (เช่น "พิซซ่ามีแป้ง ซอส และหน้าต่างๆ")

3. Episteme: ความรู้แท้จริง (เช่น ความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับส่วนผสม กระบวนการทำ และประวัติศาสตร์ของพิซซ่า)

.

สโตอิกเชื่อว่าเราควรพยายามพัฒนาความเข้าใจของเราจาก Doxa ไปสู่ Episteme ในทุกเรื่องนั่นเองครับ

.

----------------------------

.

3. คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนดี? สโตอิกบอกว่าคุณต้องฝึกความดีเหมือนเล่นกีฬา

.

สโตอิกเชื่อว่าคุณธรรมคือความรู้ และความชั่วเกิดจากความไม่รู้ พวกเขาเน้นคุณธรรมหลัก 4 ประการ:

.

1. Phronesis (ปัญญา): การตัดสินใจอย่างชาญฉลาด

2. Dikaiosyne (ความยุติธรรม): การปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างเท่าเทียม

3. Andreia (ความกล้าหาญ): ความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง

4. Sophrosyne (การควบคุมตนเอง): การรู้จักยับยั้งชั่งใจ

.

คุณธรรมเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่คำสอน แต่เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝน เหมือนการเล่นดนตรีหรือเล่นกีฬา ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง! แต่อย่าคิดว่าคุณจะกลายเป็น "Stoic Master" ได้ในชั่วข้ามคืนนะครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นได้ เราคงมีนักปรัชญาเดินเพ่นพ่านอยู่เต็มถนนแล้วล่ะ

.

----------------------------

.

4. คุณอยากระเบิดอารมณ์? สโตอิกจะสอนคุณให้เป็นนินจาทางอารมณ์!

.

4.1 Apatheia: ไม่ใช่การไร้อารมณ์ แต่เป็นการไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์

สโตอิกแบ่งอารมณ์เป็น 4 ประเภท - ความทุกข์, ความกลัว, ความปรารถนา, และความสุข ซึ่งล้วนเกิดจากการตัดสินที่ผิดพลาดเกี่ยวกับความดีและความชั่ว

.

ตัวอย่าง: เมื่อเจอรถติด แทนที่จะโกรธ ลองมองว่ามันเป็นโอกาสให้เราได้ฟังพอดแคสต์หรือทบทวนแผนการวันนี้ แต่ถ้าคุณยังโกรธอยู่ ก็ไม่เป็นไรนะครับ อย่างน้อยคุณก็ได้ฝึกความอดทนไปในตัว!

.

4.2 Prohairesis: เสรีภาพในการเลือกทัศนคติ

แนวคิดนี้สอนว่า แม้เราควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แต่เราควบคุมการตอบสนองของเราได้

.

ตัวอย่าง: เมื่อถูกเพื่อนร่วมงานวิจารณ์ แทนที่จะโกรธหรือเสียใจ เราสามารถเลือกที่จะมองมันเป็นโอกาสในการปรับปรุงตัวเอง หรือถ้าคุณรู้สึกว่าเขาวิจารณ์ไม่ถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นโอกาสให้คุณได้ฝึกความอดทนและเมตตาต่อคนที่ยังไม่เข้าใจคุณ

.

4.3 Oikeiôsis: กระบวนการเรียนรู้ที่จะรักตัวเองและขยายความรักนั้นไปสู่ผู้อื่น

นี่เป็นรากฐานของแนวคิดเรื่องความเป็นพลเมืองโลก (Cosmopolitanism) ของสโตอิก

.

ตัวอย่าง: เริ่มจากการดูแลตัวเอง แล้วค่อยๆ ขยายความห่วงใยไปสู่ครอบครัว ชุมชน ประเทศ และโลก แต่อย่าลืมนะครับ ว่าการรักโลกไม่ได้หมายความว่าคุณต้องแบกโลกไว้บนบ่าคุณคนเดียว

.

-------------------------

.

5. คุณอยากหนีไปอยู่บนดาวอังคาร? สโตอิกจะทำให้คุณอยู่บนโลกอย่างมีความสุข!

.

5.1 คุณอยากจะบินหนีจากโลก แต่สโตอิกจะทำให้คุณอยู่บนโลกอย่างมีความสุข!

แนวทาง: ฝึก "View From Above" โดยจินตนาการว่าคุณมองโลกจากอวกาศ เพื่อเห็นภาพรวมของชีวิตและลดความสำคัญของปัญหาเล็กๆ น้อยๆ

.

วิธีทำ: นั่งสบายๆ หลับตา และจินตนาการว่าคุณกำลังลอยขึ้นสูง มองเห็นตัวเอง บ้าน เมือง ประเทศ และโลก จากมุมมองนี้ ปัญหาที่คุณกำลังเผชิญดูเล็กลงไหม? แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่าปัญหาของคุณใหญ่มาก ก็ไม่เป็นไรนะครับ อย่างน้อยคุณก็ได้ฝึกจินตนาการไปในตัว!

.

5.2 คุณกลัวว่าจะสูญเสียทุกอย่าง? สโตอิกจะทำให้คุณเห็นคุณค่าของสิ่งที่มี!

แนวทาง: ใช้ "Negative Visualization" โดยจินตนาการถึงสถานการณ์ที่แย่ที่สุด เพื่อเตรียมใจและเห็นคุณค่าของสิ่งที่มี

.

วิธีทำ: ลองจินตนาการว่าคุณสูญเสียสิ่งที่คุณรักไป เช่น งาน บ้าน หรือคนที่คุณรัก แล้วคุณจะรู้สึกขอบคุณมากขึ้นสำหรับสิ่งที่คุณมีในตอนนี้ แต่อย่าทำบ่อยเกินไปนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปซะก่อน!

.

5.3 คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อน? สโตอิกจะทำให้คุณเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็ง... แต่ไม่ใช่หัวใจนะ!

แนวทาง: ฝึกแยกแยะระหว่าง "การรับรู้" กับ "การตัดสิน" เมื่อเผชิญสถานการณ์ต่างๆ

.

วิธีทำ: เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ให้แยกแยะระหว่าง "สิ่งที่เกิดขึ้นจริง" กับ "ความคิดเห็นของเราต่อสิ่งนั้น" เช่น "เพื่อนไม่ตอบข้อความ" (ข้อเท็จจริง) vs "เพื่อนไม่สนใจฉัน" (การตัดสิน) แต่ถ้าคุณยังรู้สึกหงุดหงิดอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยคุณก็ได้ฝึกการสังเกตตัวเองไปในตัว!

.

-----------------------

.

23 คำคมสไตล์สโตอิก

.

1. "เราไม่ได้ทุกข์จากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทุกข์จากมุมมองที่เรามีต่อมัน" - Epictetus

.

2. "ความสุขของชีวิตขึ้นอยู่กับคุณภาพของความคิด" - Marcus Aurelius

.

3. "จงเป็นเหมือนหินผาที่คลื่นมาซัดอยู่เสมอ มันยืนนิ่งอยู่ และคลื่นสงบลงรอบๆ มัน" - Marcus Aurelius

.

4. "ไม่มีลมที่ดีสำหรับเรือที่ไม่รู้ว่าจะไปไหน" - Seneca

.

5. "เราไม่สามารถเลือกสถานการณ์ภายนอกได้ แต่เราเลือกวิธีตอบสนองต่อมันได้" - Epictetus

.

6. "ความกลัวทำร้ายเรามากกว่าสิ่งที่เรากลัว" - Seneca

.

7. "จงยอมรับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ และควบคุมสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้" - Epictetus

.

8. "จงใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่า เพราะชีวิตนั้นสั้นนัก" - Marcus Aurelius

.

9. "จงทำหน้าที่ของมนุษย์ให้ดีที่สุด ไม่ว่าชะตากรรมจะเป็นเช่นไร" - Marcus Aurelius

.

10. "จงเป็นนายของตัวเอง และจักรวาลจะไม่มีนายเหนือคุณ" - Diogenes

.

11. "ปัญญาคือความรู้ว่าอะไรควรทำ ความกล้าหาญคือการทำมัน" - Seneca

.

12. "ความสุขไม่ได้มาจากการมีมาก แต่มาจากการต้องการน้อย" - Epictetus

.

13. "จงมองหาความงามในทุกสิ่ง แม้แต่ในความทุกข์ยาก" - Marcus Aurelius

.

14. "ความสำเร็จที่แท้จริงคือการเอาชนะตัวเอง" - Epictetus

.

15. "ความรู้โดยปราศจากคุณธรรมเป็นเพียงความฉลาดแกมโกง" - Seneca

.

16. "จงเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ใช่แค่วิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น" - Epictetus

.

17. "ความรู้ที่แท้จริงคือการรู้ว่าเราไม่รู้อะไร" - Socrates

.

18. "จงใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ" - Zeno of Citium

.

19. "ความเมตตาคือพลังที่แท้จริง ไม่ใช่ความอ่อนแอ" - Marcus Aurelius

.

20. "จงเรียนรู้ที่จะรับฟังมากกว่าพูด" - Epictetus

.

21. "ความสงบสุขเริ่มต้นเมื่อความคาดหวังสิ้นสุด" - Seneca

.

22. "จงมองความล้มเหลวเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต" - Epictetus

.

23. "ความกล้าหาญไม่ใช่การไม่กลัว แต่เป็นการทำในสิ่งที่ถูกต้องแม้จะกลัว" - Seneca

.

สรุป 23 ข้อนี้แบบง่ายๆ ก็คือ เป็นคนดี มีสติ ไม่บ่น ไม่เรื่องมาก และพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่ชีวิตโยนมา แม้ว่าบางครั้งสิ่งที่ชีวิตโยนมาจะเป็นกล้วยหอมก็ตาม

.

------------------------

.

8 วิธีแยกแยะสโตอิกแท้ VS สโตอิกเทียม

.

1. สโตอิกแท้: ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน

Not สโตอิก: โทษโชคชะตา, แมว, หรือระบบการศึกษา สำหรับทุกความผิดพลาด

.

2. สโตอิกแท้: ใช้เหตุผลในการตัดสินใจ

Not สโตอิก: ใช้วิธีเสี่ยงทาย หรือถามความเห็น TikTok

.

3. สโตอิกแท้: พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ

Not สโตอิก: คิดว่าการอัพเดท Instagram คือการพัฒนาตนเอง

.

4. สโตอิกแท้: ควบคุมอารมณ์ได้ดี

Not สโตอิก: อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เหมือนรถไฟเหาะ

.

5. สโตอิกแท้: ยินดีกับสิ่งที่มี

Not สโตอิก: เปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับ Influencer ตลอดเวลา

.

6. สโตอิกแท้: รับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ

Not สโตอิก: รอให้คนอื่นพูดจบเพื่อจะได้พูดบ้าง

.

7. สโตอิกแท้: มองเห็นคุณค่าในความยากลำบาก

Not สโตอิก: บ่นทุกครั้งที่ต้องเดินขึ้นบันได

.

8. สโตอิกแท้: ใช้ชีวิตอย่างสอดคล้องกับค่านิยมของตนเอง

Not สโตอิก: เปลี่ยนค่านิยมไปตามเทรนด์ล่าสุดบน Social Media

.

------------------------------

.

แมวคือตัวอย่างในการใช้ชีวิตแบบสโตอิก

.

1. แมวสอนว่า: อย่าให้ความคิดเป็นทาสของสถานการณ์

.

เช่นเดียวกับที่ Epictetus กล่าวไว้ "เราไม่ได้ทุกข์จากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทุกข์จากมุมมองที่เรามีต่อมัน" แมวไม่เคยกังวลว่ากล่องใบไหนจะเป็นบ้านมัน ขอแค่มีกล่องก็พอ

.

2. แมวสอนว่า: จงพึงพอใจกับสิ่งที่มี

.

Marcus Aurelius บอกว่า "ความสุขของชีวิตขึ้นอยู่กับคุณภาพของความคิด" แมวไม่เคยบ่นว่าแสงแดดไม่พอ มันแค่ขยับตัวนิดหน่อยเพื่อรับแดดให้เต็มที่

.

3. แมวสอนว่า: จงนิ่งให้เป็นเหมือนหินผา... ที่นอนหลับได้

.

"จงเป็นเหมือนหินผาที่คลื่นมาซัดอยู่เสมอ มันยืนนิ่งอยู่ และคลื่นสงบลงรอบๆ มัน" - Marcus Aurelius

แมวนอนนิ่งบนโซฟาได้ทั้งวัน ไม่ว่าโลกจะวุ่นวายแค่ไหน

.

4. แมวสอนว่า: เราควบคุมการตอบสนองของเราได้

.

"เราไม่สามารถเลือกสถานการณ์ภายนอกได้ แต่เราเลือกวิธีตอบสนองต่อมันได้" - Epictetus

เมื่อถูกเรียกชื่อ แมวเลือกที่จะตอบสนอง... หรือไม่ตอบสนองเลยก็ได้

.

5. แมวสอนว่า: ความสุขอยู่ที่ความเรียบง่าย

.

"ความสุขไม่ได้มาจากการมีมาก แต่มาจากการต้องการน้อย" - Epictetus

แมวมีความสุขกับกล่องเปล่าๆ ใบเดียว ในขณะที่คุณต้องการสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด

.

--------------------------

.

การเป็นสโตอิกก็เหมือนการเป็นแตงกวาดองในโลกที่เต็มไปด้วยมะเขือเทศบี้แบน

.

เจ้านายด่า? คิดซะว่ากำลังฟังเพลงเสียงขูดหม้อ

รถติด? ถือซะว่าได้นั่งสมาธิในกล่องเหล็กเคลื่อนที่

Wi-Fi ล่ม? เยี่ยม! โอกาสทองในการฝึกสมาธิแบบออฟไลน์

.

ชีวิตเหมือนตู้เย็น ยิ่งคุณเปิดบ่อย ยิ่งเห็นว่ามันว่างเปล่า แต่ถ้าคุณเติมมันด้วยปรัชญาสโตอิก คุณจะมีของกินเล่นทางปัญญาไว้กัดทุกครั้งที่ชีวิตหิว

.

สุดท้ายแล้วครับ จำคำของ Epictetus ไว้ "อย่าอธิบายปรัชญาของคุณ จงแสดงมันออกมา" ซึ่งแปลเป็นภาษาแมวก็คือ "เหมียวให้น้อย ข่วนให้มาก" นั่นเองครับ

.

.

.

.

#SuccessStrategies #Stoic

 

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

https://www.facebook.com/pond.atichat

Previous
Previous

ความต่อเนื่องคือพลัง

Next
Next

"Empathy" ใจเขาใจเราของการเขียนบทความ (และการสื่อสาร)