The Four Agreements 4 ข้อตกลงเปลี่ยนชีวิต จากปราชญ์พันปี สู่อิสรภาพที่คุณสัมผัสได้ เขียนโดย Don Miguel Ruiz

The Four Agreements 4 ข้อตกลงเปลี่ยนชีวิต จากปราชญ์พันปี สู่อิสรภาพที่คุณสัมผัสได้ เขียนโดย Don Miguel Ruiz
.
มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความบริสุทธิ์ แต่แล้วเราก็ถูกหล่อหลอมด้วยความเชื่อมากมาย เสมือนผ้าขาวที่ถูกย้อมทีละสี จนกลายเป็นภาพที่สังคมวาดให้ ดอน มิเกล รุยซ์ ปราชญ์แห่งชนเผ่าโทลเทค ได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาโบราณที่จะช่วยให้เราหวนคืนสู่ความเป็นอิสระดั้งเดิม ผ่านหนังสือ "The Four Agreements" ที่จะพาเราเดินทางสู่การค้นพบตัวตนที่แท้จริง
.
มรดกแห่งปัญญาโทลเทค
.
โทลเทคไม่ใช่บริษัทผลิตชิป แต่เป็นวิถีแห่งปัญญาที่สืบทอดมาจากอารยธรรมโบราณในเม็กซิโก นับพันปีมาแล้วที่ชาวโทลเทคได้รับการยกย่องว่าเป็น "บุรุษและสตรีแห่งความรู้" พวกเขาเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์และศิลปินที่รวมตัวกันเพื่อรักษาและสืบทอดความรู้ทางจิตวิญญาณของบรรพบุรุษ
.
องค์ความรู้ของโทลเทคไม่ได้ขัดแย้งกับศาสนาใด แต่กลับสะท้อนสัจธรรมเดียวกันที่แฝงอยู่ในทุกประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ทั่วโลก สิ่งที่ทำให้วิถีโทลเทคโดดเด่นคือความเรียบง่ายและการนำไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการเข้าถึงความสุขและความรักอย่างแท้จริง
.
----------------------------
.
ความฝันของโลก
.
พวกเขาเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนดำรงอยู่ในความฝันร่วมกันของโลก - ความฝันที่ถูกถักทอขึ้นจากความเชื่อ กฎเกณฑ์ และข้อตกลงนับล้านที่เราไม่เคยตั้งคำถาม ความฝันนี้ประกอบด้วยความฝันย่อยๆ ของผู้คนนับพันล้าน รวมกันเป็นความฝันของครอบครัว ชุมชน เมือง ประเทศ และในที่สุดก็กลายเป็นความฝันของมนุษยชาติทั้งมวล
.
เมื่อเด็กคนหนึ่งเกิดมา สังคมจะเริ่มกระบวนการ "ทำให้เชื่อง" ผ่านระบบความเชื่อที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ผ่านพ่อแม่ โรงเรียน ศาสนา และสถาบันต่างๆ จนกระทั่งเด็กคนนั้นเติบโตขึ้นมาพร้อมกับ "หนังสือแห่งกฎ" ในใจ - ชุดความเชื่อที่กำหนดว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร
.
กระบวนการนี้ฝังรากลึกจนเมื่อเราเติบโตขึ้น เราไม่จำเป็นต้องมีใครมาคอยควบคุมอีกต่อไป เพราะเราได้กลายเป็นสัตว์ที่ถูกทำให้เชื่องด้วยตัวเอง คอยลงโทษและให้รางวัลตัวเองตามกฎเกณฑ์ที่ถูกปลูกฝังมา
.
-----------------------------
.
กุญแจสู่อิสรภาพ
.
แต่ความจริงอันลึกซึ้งก็คือ เราไม่จำเป็นต้องติดกับอยู่ในกรงขังแห่งความเชื่อนี้ไปตลอดกาล รุยซ์ได้มอบกุญแจ 4 ดอกที่จะไขเราออกจากคุกทางความคิด นั่นคือข้อตกลง 4 ประการ ที่หากนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังแล้ว จะนำพาเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
.
-----------------------------
.
[ ข้อตกลงที่หนึ่ง: จงรักษาคำพูด ]
.
คำพูดคือพลังสร้างสรรค์อันทรงพลังที่สุดของมนุษย์ ดั่งดาบสองคมที่สามารถทั้งสร้างสวรรค์และนรก การรักษาคำพูดไม่ได้หมายถึงแค่การพูดความจริง แต่รวมถึงการใช้พลังแห่งถ้อยคำในทางที่ถูกต้องและสร้างสรรค์ ไม่ใช้มันทำร้ายทั้งตนเองและผู้อื่น
.
เมื่อเราพูดร้ายกับตัวเอง นั่นคือบาปอันใหญ่หลวง เพราะเท่ากับเราปฏิเสธตัวตนที่แท้จริง คำพูดของเราเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ และจิตใจของเราคือดินอันอุดมสมบูรณ์ เราต้องระมัดระวังว่าจะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรักหรือความเกลียดชังลงไป
.
เมื่อเราซื่อสัตย์กับคำพูด เราจะพบว่าความจริงเป็นยาที่จะชำระล้างพิษร้ายในจิตใจ การรักษาคำพูดจึงเป็นเหมือนการทำความสะอาดจิตใจให้บริสุทธิ์ พร้อมที่จะรับเมล็ดพันธุ์แห่งความรักและความงดงาม
.
-----------------------------
.
[ ข้อตกลงที่สอง: อย่าเอาอะไรมาใส่ใจ ]
.
ทุกสิ่งที่ผู้อื่นทำหรือพูดล้วนสะท้อนความฝันส่วนตัวของพวกเขา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรา การที่เราเอาความคิดเห็นหรือการกระทำของผู้อื่นมาเป็นเรื่องส่วนตัว เท่ากับเรายอมรับพิษร้ายเข้ามาในจิตใจโดยไม่จำเป็น
.
ในท่ามกลางนรก การไม่เอาอะไรมาใส่ใจคือภูมิคุ้มกัน เพราะเมื่อเราไม่รับเอาขยะทางอารมณ์ของผู้อื่นเข้ามา เราก็จะไม่ต้องทนทุกข์กับมัน มนุษย์มักติดกับดักของความทุกข์ในระดับต่างๆ กัน และมักจะชวนกันทุกข์โดยไม่รู้ตัว
.
เราไม่มีทางรู้ว่าผู้อื่นคิดอะไร รู้สึกอะไร เพราะพวกเขาอยู่ในความฝันของตัวเอง การพยายามเอาโลกของเราไปตัดสินโลกของเขา จึงเป็นเพียงการสร้างความทุกข์ให้ตัวเองเท่านั้น เมื่อเข้าใจเช่นนี้ เราจะพบอิสรภาพอันยิ่งใหญ่
.
-----------------------------
.
[ ข้อตกลงที่สาม: อย่าด่วนสรุปเอาเอง ]
.
การตั้งข้อสันนิษฐานคือการเดินทางสู่ความเข้าใจผิดและความทุกข์ เรามักคิดว่าคนอื่นมองโลกเหมือนเรา คิดเหมือนเรา รู้สึกเหมือนเรา แต่ความจริงคือทุกคนมีมุมมองและประสบการณ์เป็นของตัวเอง
.
การด่วนสรุปทำให้เราสร้างละครชีวิตที่ไม่จำเป็น เมื่อเราเข้าใจผิด เราก็เอามาใส่ใจ แล้วก็ส่งต่อพิษร้ายด้วยคำพูดของเรา วงจรแห่งความทุกข์จึงดำเนินต่อไปไม่รู้จบ
.
แทนที่จะด่วนสรุป จงเลือกที่จะถาม จงเลือกที่จะสื่อสารอย่างชัดเจน เพราะการสื่อสารที่แท้จริงจะนำไปสู่ความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่งดงาม เมื่อเราหยุดสร้างสมมติฐาน คำพูดของเราจะบริสุทธิ์ ปราศจากพิษร้ายทางอารมณ์
.
-----------------------------
.
[ ข้อตกลงที่สี่: ทำให้ดีที่สุดเสมอ ]
.
การทำสิ่งใดให้ดีที่สุดคือการแสดงความรักต่อตัวเองและชีวิต เมื่อเราทำทุกอย่างด้วยความรักโดยไม่คาดหวังผลตอบแทน เราจะพบว่าความสุขแท้จริงอยู่ที่การเดินทาง ไม่ใช่จุดหมาย
.
ทำดีที่สุดไม่ได้หมายถึงการเพียรพยายามจนเกินกำลัง แต่หมายถึงการใส่ใจในทุกการกระทำ ทุกความคิด และทุกคำพูด เมื่อเราทำสิ่งใดด้วยความรัก ไม่ใช่เพราะต้องการรางวัล เราจะพบว่าทุกย่างก้าวในชีวิตล้วนเปี่ยมด้วยความหมาย
.
การทำดีที่สุดทำให้เราไม่ต้องตัดสินตัวเอง เมื่อไม่มีการตัดสิน ก็ไม่มีความรู้สึกผิด การตำหนิ และการลงโทษตัวเอง เมื่อเราทำดีที่สุดแล้ว เราจะเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองอย่างที่เป็น
.
-------------------------------
.
สู่ความฝันใหม่
.
ข้อตกลง 4 ประการคือ การครองความเป็นเจ้าแห่งเจตนา การครองความเป็นเจ้าแห่งจิตวิญญาณ การครองความเป็นเจ้าแห่งความรัก การครองความเป็นเจ้าแห่งความกตัญญู และการครองความเป็นเจ้าแห่งชีวิต เป้าหมายของชาวโทลเทคตามหนังสือเล่มนี้ คือเส้นทางสู่อิสรภาพส่วนบุคคลครับ

.

.

.

.

#SuccessStrategies

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

Previous
Previous

Time vs Money จากบทความสั้นๆจากบล็อกของ Ali Abdaal

Next
Next

80 บทเรียนจากนักธุรกิจระดับโลก