50 คำคมทรงพลังจาก Jean-Paul Sartre (ฌ็อง-ปอล ซาทร์) บิดาแห่งอัตถิภาวนิยมผู้ปฏิเสธโนเบล
50 คำคมทรงพลังจาก Jean-Paul Sartre (ฌ็อง-ปอล ซาทร์) บิดาแห่งอัตถิภาวนิยมผู้ปฏิเสธโนเบล
.
ถ้าคุณคิดว่าวัยรุ่นสมัยนี้เข้าใจยากและเรียกร้องความสนใจ คุณต้องยังไม่รู้จักฌ็อง-ปอล ซาทร์ (1905-1980) นักปรัชญาฝรั่งเศสผู้ชอบปฏิเสธทุกอย่าง... ยกเว้นกาแฟ บุหรี่ และความรักแบบโอเพ่น
.
เขาคือบิดาแห่งอัตถิภาวนิยม (Existentialism) ผู้ประกาศก้องว่า "การดำรงอยู่มาก่อนแก่นสาร" และ "มนุษย์ถูกลิขิตให้เป็นอิสระ" ซึ่งฟังดูเท่มาก... จนกระทั่งคุณต้องรับผิดชอบทุกการกระทำของตัวเอง (เอ๊ะมันยังไง) ผ่านงานเขียนชิ้นเอกอย่าง "Being and Nothingness" (L'Être et le Néant, 1943) ที่หนาพอจะใช้ทุบหัวขโมยได้สบาย และ "Existentialism Is a Humanism" (L'existentialisme est un humanisme, 1946) ฉบับย่อที่อ่านจบได้โดยไม่ต้องดื่มกาแฟถึงสิบแก้ว
.
ในฐานะนักเขียน เขาเป็นได้ทุกอย่าง: นักละคร นักวิจารณ์ นักเคลื่อนไหว และนักปฏิเสธรางวัลโนเบลมืออาชีพ (ปี 1964) ด้วยเหตุผลว่า "นักเขียนไม่ควรยอมให้ตัวเองถูกเปลี่ยนเป็นสถาบัน" ทั้งที่ตอนนั้นเงินรางวัลก็ไม่ได้น้อยๆ ซ้ำยังท้าทายสังคมด้วยความสัมพันธ์แบบโอเพ่นกับซิโมน เดอ โบวัวร์ นักปรัชญาสาวเปรี้ยว ในยุคที่ผู้คนยังเชื่อว่าการแต่งงานคือทางเดียวที่จะทำให้พ่อแม่ไม่อายเพื่อนบ้าน
.
ซาทร์บอกเราว่ามนุษย์เกิดมาเหมือนผ้าขาว... แต่เป็นผ้าขาวที่ต้องวาดรูปตัวเองลงไป ทุกการตัดสินใจของเราไม่เพียงกำหนดว่าเราจะเป็นใคร แต่ยังบอกด้วยว่าเราคิดว่ามนุษย์ควรเป็นอย่างไร นี่คือเสรีภาพอันน่าหวาดหวั่นที่เขาเรียกว่า 'ความหวาดกลัวและสั่นสะท้าน'
.
เขามักพูดติดปากว่า "นรกคือผู้อื่น" (L'enfer, c'est les autres) ...ซึ่งฟังดูเหมือนคนแอนตี้สังคม แต่กลับใช้ชีวิตในร้านกาแฟปารีเซียงท่ามกลางผู้คนมากมาย บางทีนั่นอาจเป็นเพราะแม้แต่นักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังต้องการคนชงกาแฟให้...
.
สี่สิบปีผ่านไป โลกเปลี่ยน แต่คำคมของซาทร์ยังคมกริบ... และถ้าคุณไม่เชื่อ ลองจิบกาแฟสักแก้วแล้วอ่าน 50 ประโยคต่อไปนี้ดูครับ
.
.
1. "We are our choices."
"เราคือสิ่งที่เราเลือก"
.
.
2. "Freedom is what you do with what's been done to you."
"อิสรภาพคือสิ่งที่คุณทำกับสิ่งที่ถูกกระทำต่อคุณ"
.
.
3. "Man is condemned to be free."
"มนุษย์ถูกลิขิตให้เป็นอิสระ"
.
.
4. "Hell is other people."
"นรกคือผู้อื่น"
.
.
5. "Every word has consequences. Every silence, too."
"ทุกคำพูดมีผลลัพธ์ ความเงียบก็เช่นกัน"
.
.
6. "It is up to you to give life a meaning."
"ขึ้นอยู่กับคุณที่จะให้ความหมายแก่ชีวิต"
.
.
7. "Life begins on the other side of despair."
"ชีวิตเริ่มต้นในอีกด้านของความสิ้นหวัง"
.
.
8. "If you are lonely when you're alone, you are in bad company."
"ถ้าคุณเหงาเมื่ออยู่คนเดียว แสดงว่าคุณอยู่ในที่ที่ไม่ดี"
.
.
9. "Words are loaded pistols."
"คำพูดคืออาวุธที่พร้อมลั่นไก"
.
.
10. "Man is nothing else but what he makes of himself."
"มนุษย์คือสิ่งที่เขาสร้างขึ้นจากตัวเอง"
.
.
11. "Commitment is an act, not a word."
"ความมุ่งมั่นคือการกระทำ ไม่ใช่คำพูด"
.
.
12. "To know what life is worth you have to risk it once in a while."
"จะรู้ค่าของชีวิตต้องกล้าเสี่ยงบ้างเป็นครั้งคราว"
.
.
13. "Better to die on one's feet than to live on one's knees."
"ตายอย่างสง่าดีกว่ามีชีวิตอยู่อย่างต่ำต้อย"
.
.
14. "We make our own hell out of the people around us."
"เราสร้างนรกของเราเองจากผู้คนรอบข้าง"
.
.
15. "Only the guy who isn't rowing has time to rock the boat."
"มีแต่คนที่ไม่ได้พายเรือเท่านั้นที่มีเวลามาแกว่งเรือ"
.
.
16. "All that I know about my life, it seems, I have learned in books."
"ทุกสิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับชีวิต ดูเหมือนฉันได้เรียนรู้มาจากหนังสือ"
.
.
17. "Once we know and are aware, we are responsible for our action and our inaction."
"เมื่อเรารู้และตระหนัก เราต้องรับผิดชอบทั้งการกระทำและการไม่กระทำของเรา"
.
.
18. "I exist. That is all, and I find it nauseating."
"ฉันมีตัวตน นั่นคือทั้งหมด และมันทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้"
.
.
19. "There may be more beautiful times, but this one is ours."
"อาจมีช่วงเวลาที่สวยงามกว่า แต่ช่วงเวลานี้เป็นของพวกเรา"
.
.
20. "What do we mean by saying that existence precedes essence? We mean that man first of all exists, encounters himself, surges up in the world-and defines himself afterward."
"การที่เราพูดว่าการมีตัวตนมาก่อนแก่นแท้นั้นหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่ามนุษย์มีตัวตนก่อน พบเจอตัวเอง ผุดขึ้นในโลก แล้วจึงนิยามตัวเองในภายหลัง"
.
.
21. "Death is a continuation of my life without me..."
"ความตายคือการดำเนินต่อของชีวิตฉัน โดยไม่มีฉัน"
.
.
22. "We must act out passion before we can feel it."
"เราต้องแสดงความหลงใหลออกมาก่อนที่จะรู้สึกมัน"
.
.
23. "We do not judge the people we love."
"เราไม่ตัดสินคนที่เรารัก"
.
.
24. "Life has no meaning the moment you lose the illusion of being eternal."
"ชีวิตไร้ความหมายในวินาทีที่คุณสูญเสียภาพลวงของการมีชีวิตนิรันดร์"
.
.
25. "When the rich wage war, it's the poor who die."
"เมื่อคนรวยก่อสงคราม คนจนคือผู้สิ้นชีพ"
.
.
26. "I can always choose, but I ought to know that if I do not choose, I am still choosing."
"ฉันเลือกได้เสมอ แต่ฉันควรรู้ว่าถ้าฉันไม่เลือก นั่นก็คือการเลือกอยู่ดี"
.
.
27. "Like all dreamers, I mistook disenchantment for truth."
"เหมือนคนช่างฝันทั้งหลาย ฉันเข้าใจผิดคิดว่าความผิดหวังคือความจริง"
.
.
28. "To think new thoughts you have to break the bones in your head."
"จะมีความคิดใหม่ คุณต้องทำลายกรอบความคิดเก่าในหัว"
.
.
29. "Life is nothing until it is lived; but it is yours to make sense of, and the value of it is nothing else but the sense you choose."
"ชีวิตไม่มีค่าจนกว่าจะถูกใช้ชีวิต แต่มันเป็นของคุณที่จะให้ความหมาย และคุณค่าของมันก็คือความหมายที่คุณเลือก"
.
.
30. "In a word, man must create his own essence: it is in throwing himself into the world, suffering there, struggling there, that he gradually defines himself."
"กล่าวโดยสรุป มนุษย์ต้องสร้างแก่นแท้ของตนเอง: ด้วยการโยนตัวเองเข้าสู่โลก ทนทุกข์ที่นั่น ดิ้นรนที่นั่น จนค่อยๆ นิยามตัวเอง"
.
.
31. "If you seek authenticity for authenticity's sake you are no longer authentic."
"ถ้าคุณแสวงหาความจริงแท้เพื่อความจริงแท้ คุณก็ไม่จริงแท้อีกต่อไป"
.
.
32. "Genius is what a man invents when he is looking for a way out."
"อัจฉริยะคือสิ่งที่มนุษย์คิดค้นเมื่อกำลังมองหาทางออก"
.
.
33. "The consciousness that says 'I am' is not the consciousness that thinks."
"จิตสำนึกที่พูดว่า 'ฉันคือ' ไม่ใช่จิตสำนึกที่คิด"
.
.
34. "Man can will nothing unless he has first understood that he must count on no one but himself."
"มนุษย์จะไม่สามารถตั้งใจทำอะไรได้ จนกว่าจะเข้าใจว่าต้องพึ่งพาตัวเองเท่านั้น"
.
.
35. "For an occurrence to become an adventure, it is necessary and sufficient for one to recount it."
"เหตุการณ์จะกลายเป็นการผจญภัยได้ ก็ต่อเมื่อมีคนเล่าเรื่องราวนั้น"
.
.
36. "Acting is happy agony."
"การแสดงคือความทรมานที่มีความสุข"
.
.
37. "The more sand that has escaped from the hourglass of our life, the clearer we should see through it."
"ยิ่งเม็ดทรายในนาฬิกาทรายแห่งชีวิตร่วงผ่านไปมากเท่าไร เราก็ควรมองเห็นทะลุปรุโปร่งมากขึ้นเท่านั้น"
.
.
38. "Smooth and smiling faces everywhere, but ruin in their eyes."
"ใบหน้าเรียบเนียนและรอยยิ้มอยู่ทุกหนแห่ง แต่ความพินาศอยู่ในดวงตา"
.
.
39. "Something begins in order to end: an adventure doesn't let itself be extended; it achieves significance only through its death."
"ทุกสิ่งเริ่มต้นเพื่อจะจบลง: การผจญภัยไม่ยอมให้ยืดออกไป มันจะมีความหมายก็ต่อเมื่อถึงจุดจบ"
.
.
40. "The existentialist says at once that man is anguish."
"นักปรัชญาอัตถิภาวนิยมกล่าวว่ามนุษย์คือความทุกข์ทรมาน"
.
.
41. "We are possessed by the things we possess. When I like an object, I always give it to someone. It isn't generosity - it's only because I want others to be enslaved by objects, not me."
"เราถูกครอบครองโดยสิ่งที่เราครอบครอง เมื่อฉันชอบวัตถุชิ้นใด ฉันมักให้มันแก่ผู้อื่น ไม่ใช่ความเอื้อเฟื้อ - แต่เพราะฉันต้องการให้คนอื่นเป็นทาสของวัตถุ ไม่ใช่ฉัน"
.
.
42. "Man must be invented each day."
"มนุษย์ต้องถูกประดิษฐ์ขึ้นใหม่ทุกวัน"
.
.
43. "What is boredom? It is when there is simultaneously too much and not enough."
"ความเบื่อหน่ายคืออะไร? คือเมื่อมีมากเกินไปและน้อยเกินไปในเวลาเดียวกัน"
.
.
44. "My thought is me: that is why I cannot stop thinking. I exist because I think I cannot keep from thinking."
"ความคิดคือตัวฉัน: นั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่อาจหยุดคิด ฉันมีตัวตนเพราะฉันคิดว่าฉันไม่อาจหยุดคิด"
.
.
45. "Ideas come in pairs and they contradict one another; their opposition is the principal engine of reflection."
"ความคิดมาเป็นคู่และขัดแย้งกันเอง การต่อต้านกันของความคิดคือเครื่องจักรหลักของการไตร่ตรอง"
.
.
46. "I am not virtuous. Our sons will be if we shed enough blood to give them the right to be."
"ฉันไม่ได้มีคุณธรรม ลูกหลานของเราจะมีก็ต่อเมื่อเราหลั่งเลือดมากพอที่จะให้สิทธินั้นแก่พวกเขา"
.
.
47. "Words are more treacherous and powerful than we think."
"คำพูดทรยศและทรงพลังมากกว่าที่เราคิด"
.
.
48. "In love, one and one are one."
"ในความรัก หนึ่งบวกหนึ่งคือหนึ่ง"
.
.
49. "Once freedom lights its beacon in man's heart, the gods are powerless against him."
"เมื่ออิสรภาพจุดประทีปในหัวใจมนุษย์ เหล่าเทพเจ้าก็ไร้อำนาจต่อเขา"
.
.
50. "To choose not to choose is still to act."
"การเลือกที่จะไม่เลือกก็ยังคงเป็นการกระทำ"
.
.
ท้ายที่สุดแล้ว ซาทร์ทิ้งมรดกอะไรไว้ให้เรา?
.
เขาทิ้งความว่างเปล่าไว้... ความว่างเปล่าที่รอให้เราแต่ละคนเติมความหมายลงไป ทิ้งอิสรภาพที่น่าหวาดกลัวไว้ให้เราต้องแบกรับ และทิ้งคำเตือนไว้ว่า "ระวัง! คุณกำลังอ่านคำคมของผม และนั่นก็เป็นการเลือกอีกอย่างที่คุณต้องรับผิดชอบ"
.
(แต่อย่างน้อยคุณก็เลือกได้ว่าจะจิบกาแฟแก้วไหนขณะอ่านมัน)
.
.
.
.
บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies