19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาที

19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาที
.

.
คุณเคยนึกภาพออกไหมว่า 19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาที มันนานแค่ไหน? นานพอที่จะดูการ์ตูนโคนันจบทั้งเรื่องได้สบายๆ แถมยังมีเวลาเหลือพอให้โคนันโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ!
.
แต่ถ้าแอดบอกว่านี่คือเวลาที่คุณมีเหลืออยู่จริงๆ กับคนที่คุณรักล่ะ? ใช่แล้วครับ นี่คือนาฬิกาทรายแห่งความสัมพันธ์ของคุณ และเม็ดทรายกำลังร่วงหล่นอย่างไม่หยุดยั้ง!
.
สมมติว่าพ่อแม่ให้กำเนิดคุณตอนอายุ 30 และมีอายุขัยเฉลี่ย 85 ปี เวลาที่จะอยู่กับพ่อแม่ของคุณคือ 55 ปี (และนั่นคือตัวเลขเดียวกันกับคุณและลูกๆของคุณ) คุณเจอคู่ชีวิตตอนอายุ 25 และอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า เวลาที่จะอยู่กับคู่ชีวิตของคุณคือ 60 ปี
.
55 ปี กับ 60 ปี ฟังดูเยอะใช่ไหม? แต่รอก่อน! อย่าเพิ่งเปิดแชมเปญฉลอง!
.
เมื่อหักลบเวลานอน ทำงาน เวลาส่วนตัวในวันหยุดของคุณ คิดแบบหยาบๆแล้วเราเหลือเวลาจริงๆ แค่ 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมด นั่นคือที่มาของ 19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาที... เวลาที่เราจะได้อยู่กับคนที่เรารักจริงๆ
.
และความเป็นจริงนั้นซับซ้อนกว่านั้นมาก เพราะอุบัติเหตุและโรคภัยไม่เคยบอกล่วงหน้า คุณอาจมีเวลาน้อยสุดๆก่อนคุณจะคิดทัน หรือมากกว่าที่คุณคาดไว้แค่นิดเดียวเท่านั้นถ้าโชคดี
.
มันเหมือนกับว่าคุณใช้เวลา 2 ใน 3 ของชีวิตไปกับการนอนและทำงาน...และเข้าโรงพยาบาล ฟังดูน่าเศร้านะ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้เงินและความฝันดีๆ (หรืออาจจะได้ฝันร้ายเกี่ยวกับงานด้วย)
.

.
----------------------------
.
อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม (ของการใช้เวลา)
.

.
ทีนี้เรามาทำความรู้จักกับ "ทฤษฎีอรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม" จากหลักเศรษฐศาสตร์กันสักหน่อย เผื่อว่าคุณจะได้ใช้มันเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจว่าควรทำงานต่อดี? หรือควรกลับบ้านไปกอดหมาดี?
.
อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม (Marginal Utility) หรือ MU คือ ความพึงพอใจที่เพิ่มขึ้นเมื่อเราได้รับหรือบริโภคสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งหน่วย เหมือนความสุขที่เพิ่มขึ้นเมื่อคุณได้กินช็อกโกแลตชิ้นที่สอง... แต่ชิ้นที่ยี่สิบอาจทำให้คุณอ้วกก็ได้
.
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังกินพิซซ่า:
.
- ชิ้นแรก: "โอ้วววว อร่อยที่สุด! ฉันรักพิซซ่า!" (อรรถประโยชน์ = 10)
- ชิ้นที่สอง: "อืม ยังอร่อยอยู่นะ แต่ไม่ได้ตื่นเต้นเท่าชิ้นแรก" (อรรถประโยชน์ = 8 )
- ชิ้นที่สาม: "เอ่อ... ก็ยังกินได้ แต่เริ่มรู้สึกอิ่มแล้วว่ะ" (อรรถประโยชน์ = 5)
- ชิ้นที่สี่: "โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว ใครเอากระเพาะหมูมาใส่ในพิซซ่าเนี่ย?" (อรรถประโยชน์ = 1)
.
เห็นได้ชัดว่า ยิ่งกินมาก อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มก็ยิ่งลดลง จนอาจติดลบในที่สุด! (เหมือนกับการดูซีรีส์มาราธอน 24 ชั่วโมง... สนุกมากในตอนแรก แต่พอถึงชั่วโมงที่ 20 คุณอาจเริ่มเห็นภาพหลอนเป็นตัวละครในเรื่อง)
.

.
------------------------------
.
เวลาอันย้อนกลับมาไม่ได้ของคุณ
.

.
แล้วเวลาอันมีค่าของคุณมันเกี่ยวอะไรกับอรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มล่ะ? ลองมาดู: (ตัวเลข MU เป็นเพียงการเปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น)
.
.
A. ชั่วโมงทำงานแรกๆ ของวัน :
.
- อรรถประโยชน์สูง: คุณมีพลัง มีแรงจูงใจ ผลงานออกมาดี (เหมือนตอนที่คุณเพิ่งดื่มกาแฟเสร็จ )
- แต่นี่คือเวลาที่คุณอาจจะได้อยู่กับลูกก่อนไปโรงเรียน (และสอนการบ้านที่คุณก็ลืมไปหมดแล้วว่ามันทำยังไง)
- MU ของการทำงาน = +10 (เท่ากับความสุขเมื่อได้กินพิซซ่าชิ้นแรก)
.
.
B. ชั่วโมงที่ 8-10 ของการทำงาน :
.
- อรรถประโยชน์เริ่มลดลง: คุณเหนื่อย สมาธิไม่ดีเท่าเดิม (เหมือนตอนที่คุณพยายามอ่านอีเมลฉบับที่ 50 ของวัน)
- นี่อาจเป็นเวลาที่คุณควรจะได้กลับไปทานข้าวเย็นกับครอบครัว (แทนที่จะสั่ง delivery มากินคนเดียวที่ออฟฟิศ)
- MU ของการทำงาน = +2 (เท่ากับความสุขเมื่อได้กินผักต้ม)
.
.
C. ชั่วโมงที่ 12 เป็นต้นไป :
.
- อรรถประโยชน์ติดลบ!: คุณอาจทำงานผิดพลาด (เช่น ส่งอีเมลหาเจ้านายด้วยคำว่า "รักนะคะ" ท้ายข้อความ)
- และนี่คือเวลาที่คุณควรจะได้พักผ่อนหรืออยู่กับคนที่คุณรัก (หรืออย่างน้อยก็อยู่กับความคิดที่ไม่วุ่นวายของตัวเอง)
- MU ของการทำงาน = -1 (เท่ากับความรู้สึกเมื่อคุณเหยียบหมากฝรั่งหน้าออฟฟิศ)
.
.
หลังจากทำงานไปสักระยะ อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มของการทำงานลดลงอย่างรวดเร็ว (เหมือนแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณหลังเล่นเกมติดต่อกัน 3 ชั่วโมง)
.
การทำงานหนักในระดับที่มากเกินไปไม่เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่คุ้มค่า แต่ยังทำให้เราเสียเวลาอันมีค่าที่ควรจะได้อยู่กับคนที่เรารักอีกด้วย! และอาจทำให้คุณกลายเป็นมนุษย์ออฟฟิศที่เผลอใช้ลิปสติกแทนปากกาเขียนรายงาน หรือแย่กว่านั้น คุณอาจพบว่าตัวเองกำลังพยายามสแกนนิ้วเพื่อเปิดประตูบ้านตัวเอง... ทั้งที่บ้านคุณใช้กุญแจธรรมดามาตลอด 20 ปี!
.
.
-----------------------
.
แต่ก่อนที่คุณจะคิดว่า "นี่มันบทความสอนให้คนขี้เกียจหรอ" จริงๆ แล้วนี่เป็นบทความที่อยากให้คุณทำให้สุดในทุกด้านต่างหาก! มาดู 5 แนวคิดสุดล้ำช่วยในการตัดสินใจกันครับ ทำงานแบบเหนือระดับ ผลลัพธ์ออกมาดี และมีเวลาคุณภาพให้กับครอบครัวและตัวคุณเองครับ
.
---------------------
.
5 แนวคิดสุดล้ำ ช่วยคุณตัดสินใจว่า 19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาทีของคุณ ควรทำอะไรดี
.
1. "กฎ 2 นาที": ถ้าทำอะไรใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที ทำเลย! ไม่ว่าจะเป็นงาน ครอบครัว หรือตัวเอง
.
2. "เทคนิคถามตัวเองแบบ FBI":
- What: อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้?
- Why: ทำไมฉันถึงต้องทำมัน?
- How: ฉันจะทำมันให้สำเร็จเร็วที่สุดได้อย่างไร?
- When: เมื่อไหร่คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำ?
.
3. "หลักการ 3 บทของชีวิต":
- บทที่ 1 ฉากทำมาหากิน: เวลาทำงานเพื่อเลี้ยงปากท้อง
- บทที่ 2 ฉากครอบครัวแสนสุข: เวลาอยู่กับครอบครัว
- บทที่ 3 ฉากพัฒนาตัวละครเอก: เวลาสำหรับพัฒนาตัวเอง
.
4. "กฎ 5-4-3-2-1": เมื่อลังเลจะทำอะไร ให้นับถอยหลัง 5-4-3-2-1 แล้วลงมือทำทันที
- ใช้ได้กับทุกเรื่อง: งาน ครอบครัว หรือการพัฒนาตัวเอง
- ทำไมต้อง 5-4-3-2-1? เพราะถ้านับ 100-99-98... คุณอาจหลับไปก่อนถึงศูนย์
.
5. "หลักการ Eisenhower Matrix แบบบ้านๆ": แบ่งงานเป็น 4 ประเภท
- ด่วน & สำคัญ: ทำเดี๋ยวนี้! (เช่น ดับไฟที่กำลังไหม้บ้านคุณ)
- ไม่ด่วน แต่สำคัญ: วางแผนทำ (เช่น ออมเงินเพื่อซื้อเครื่องดับเพลิง)
- ด่วน แต่ไม่สำคัญ: มอบหมายให้คนอื่นทำ (เช่น ให้ลูกไปซื้อถ่านไฟฉาย)
- ไม่ด่วน & ไม่สำคัญ: ทิ้งไปเลย! (เช่น การดูคลิปแมวน้ำ 10 ชั่วโมง)
.
--------------------
.
สรุป 5 ข้อสำหรับการใช้ 19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาทีของคุณ:
.
1. ชีวิตคือละครเวที 3 ฉาก: งาน ครอบครัว และการพัฒนาตัวเอง บางทีคุณต้องเป็นพระเอกในที่ทำงาน บางทีต้องเป็นตัวตลกที่บ้าน แต่สำคัญที่สุดคือ อย่าแสดงผิดเวทีเพราะไม่มีใครอยากเห็นคุณเต้นเป็นเพนกวินในห้องประชุม
.
2. อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มไม่ได้วัดกันที่จำนวนชั่วโมง: แต่วัดที่คุณภาพของเวลา ถ้าคุณนั่งจ้องหน้าจอคอมฯ 8 ชั่วโมงแต่ผลงานเท่ากับปลวกกัดกระดาษ 5 นาที แสดงว่าคุณกำลังทำงานแบบติดลบแล้วล่ะครับ
.
การพักผ่อนคือการชาร์จแบตให้สมองคุณ: ถ้าคุณทำงานจนสมองไหม้ คุณก็จะกลายเป็นมนุษย์ซอมบี้ที่เดินไปไหนมาไหนพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือ และอาจจะเผลอเอาแฟ้มงานไปนอนกอดแทนหมอนข้าง แล้วตื่นมาพบว่าตัวเองเซ็นเอกสารสำคัญด้วยน้ำลาย
.
4. ความสัมพันธ์คือสิ่งเดียวที่ทำให้ 19 ปีของคุณมีค่า: เพราะในวันที่คุณแก่หง่อมและความจำเสื่อม อย่างน้อยก็ยังมีคนคอยเตือนว่าคุณเพิ่งกินข้าวไปเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว ไม่ต้องกินอีกรอบแล้ว
.
5. การใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นสุดยอดมนุษย์: แต่หมายถึงการรู้จักจัดสรรเวลา 19 ปีของคุณให้สมดุล ทำงานให้สมาร์ท รักให้หวานซึ้ง และพัฒนาตัวเองจนเพื่อนๆ อิจฉา!
.
.
19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาทีของคุณกำลังเดินหน้าอยู่ตลอดเวลา (และถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ สำหรับบางคนเวลาที่ว่านี้อาจจะเหลือไม่ถึงครึ่งแล้วครับ) ใช้มันอย่างชาญฉลาด สร้างช่วงเวลาที่มีคุณภาพกับคนที่คุณรัก เพราะในที่สุดแล้ว นั่นคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายจริงๆครับ (แต่อย่าลืมกลับมาอ่านบทความนี้ซ้ำนะครับ แอดต้องการยอดวิว)
.
.
-------------------
.
.
แต่เดี๋ยวก่อนครับ! บทความเรายังไม่จบ!
.
.
แอดมีไพ่เด็ดสุดท้ายที่จะช่วยเพิ่มเวลา 19 ปี 2 เดือน 0 วัน 4 ชั่วโมง 51 นาทีของคุณให้ยาวนานขึ้นไปอีก ด้วยแนวคิดที่เรียกว่า FIRE!
.

.
FIRE: จุดไฟแห่งอิสรภาพ (และเวลาที่มากขึ้นกับคนที่คุณรัก)
.

.
FIRE (Financial Independence, Retire Early) คือแนวคิดที่จะช่วยให้คุณเกษียณเร็วขึ้นและมีเวลาใช้กับความสัมพันธ์มากขึ้น คิดซะว่านี่คือสกิลพิเศษในเกมชีวิตที่จะช่วยให้คุณข้ามด่านการทำงานไปสู่ด่านการใช้ชีวิตอย่างอิสระได้เร็วขึ้น! (แต่ก็ต้องตั้งใจมากขึ้นด้วยนะ!)
.
วิธีจุดไฟ FIRE ในชีวิตคุณ:
.
1. พัฒนาทักษะที่มีมูลค่าสูง: เรียนรู้ทักษะที่ตลาดต้องการและสามารถสร้างรายได้สูง
(เพราะสักวันทักษะของคุณจะทำให้เจ้านายต้องเรียกคุณว่า "บอส")
.
2. สร้างธุรกิจเสริมจากความหลงใหล: ค้นหาจุดตัดระหว่างสิ่งที่คุณรักและสิ่งที่ตลาดต้องการ
(เมื่อคุณทำในสิ่งที่รัก งานจะกลายเป็นวันหยุดที่มีเงินเดือน)
.
3. ประหยัดอย่างชาญฉลาด: ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นโดยไม่ลดคุณภาพชีวิต
(ประหยัดวันนี้ เพื่อให้วันหน้าคุณได้ช้อปแบบไม่ต้องกลัวแคชเชียร์เอ่ยราคา)
.
4. สร้างเครือข่ายที่มีคุณค่า: พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้คนในวงการที่คุณสนใจ
(เพราะเพื่อนที่ดีคือเพื่อนที่ชวนคุณไปเที่ยวตอนคุณเกษียณแล้ว)
.
5. คำนวณเป้าหมาย FIRE ของคุณ: กำหนดตัวเลขที่ชัดเจนสำหรับการเกษียณก่อนกำหนด
(เพื่อวันที่คุณสามารถพูดได้ว่า "ฉันเกษียณแล้ว" แทน "ฉันเหนื่อยจังเลย")
.
.
FIRE ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องตระหนี่ถี่เหนียวจนไม่มีความสุข แต่หมายถึงการ “ทุ่มเท” อย่างฉลาดเพื่อ "ซื้อ" เวลาและอิสรภาพในอนาคต คิดซะว่าคุณกำลังยืดเวลา 19 ปีให้ยาวขึ้น เพื่อใช้กับคนที่คุณรักและทำในสิ่งที่คุณหลงใหล
.
แต่จำไว้นะครับ ถึงคุณจะ FIRE สำเร็จ ก็อย่าเที่ยวไปพูดกับทุกคนว่าคุณเกษียณแล้วบ่อยๆ ล่ะ ไม่งั้นอาจจะไม่มีเพื่อนเหลือให้ใช้เวลา 19 ปีด้วยครับ
.
.
.
.
#SuccessStrategies

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

https://www.facebook.com/pond.atichat

Previous
Previous

ทฤษฎีหมวก 6 ใบ : วิถีแห่งปัญญา สู่ดวงดาราแห่งความคิด (และความฮา)

Next
Next

Lagom : ปรัชญาชีวิตแสนอบอุ่นของชาวสวีเดน