คัมภีร์เต้าเต๋อจิง
คัมภีร์เต้าเต๋อจิง
.
"เต๋า" ปรัชญาโบราณของจีนที่อาจเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล หรือไม่ก็ทำให้คุณงงไปอีกหลายปีก็ได้
.
เต๋า หรือที่เรียกให้เต็มยศว่า "เต้าเต๋อจิง" บ้างก็ว่าไม่ปรากฎนามผู้แต่ง บ้างก็ว่าเป็นผลงานของปรมาจารย์เล่าจื๊อ ชายผู้เกิดมาพร้อมเคราขาวโพลน หรือแค่ลืมโกนนานไปใครจะรู้ เขียนขึ้นเมื่อราว 2,500 ปีก่อน แต่ยังคงฮิตติดเทรนด์จนถึงปัจจุบัน
.
หลักการสำคัญของเต๋ามีอยู่สามข้อด้วยกัน:
.
1. ความเรียบง่าย: น้อยคือมาก มากคือยุ่งยาก
2. การปล่อยวาง: ยิ่งพยายามควบคุม ยิ่งควบคุมไม่ได้
3. การไม่ฝืนธรรมชาติ: ทำตัวเหมือนน้ำ ไหลไปตามสถานการณ์
.
.
--------------------
.
81 บทของคัมภีร์เต้าเต๋อจิง : ปรัชญาโบราณที่ยังเอาอยู่ในยุค 5G
.
.
1. เต๋าที่แท้จริงไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด ถ้าใครบอกว่าเข้าใจเต๋าทั้งหมด คนนั้นแหละที่ไม่เข้าใจเต๋าเลย
2. ความงามรู้ได้เพราะมีความน่าเกลียด เหมือนรู้ว่าวันนี้อากาศดีเพราะเคยผ่านพายุฝนมาเมื่อวาน
3. อย่าสร้างความปรารถนาให้ผู้คน แค่ทำให้พวกเขาอิ่มท้องและมีชีวิตที่เรียบง่ายก็พอ
4. เต๋าเป็นเหมือนภาชนะเปล่าที่ไม่มีวันเต็ม แต่กลับเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่ง
5. จักรวาลไม่มีความเมตตา มันปฏิบัติต่อทุกสิ่งเหมือนหุ่นฟางสำหรับพิธีกรรม โหดร้าย แต่เป็นความจริง
6. จิตวิญญาณแห่งหุบเขาไม่มีวันตาย นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "ปริศนาแห่งความเป็นหญิง"
7. ฟ้าดินอยู่ยืนยาว เพราะไม่ได้มีชีวิตเพื่อตัวเอง ดังนั้นจึงสามารถดำรงอยู่ได้ยาวนาน
8. คนดีเป็นเหมือนน้ำ ที่ให้ประโยชน์แก่ทุกสิ่งโดยไม่แย่งชิง และอยู่ในที่ที่คนอื่นรังเกียจ
9. ถือภาชนะให้เต็มนั้นไม่เท่ากับการรักษามันให้พอดี
10. ควบคุมจิตใจและร่างกายให้เป็นหนึ่งเดียว แล้วคุณจะสามารถเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเต๋า
11. สิ่งที่ไม่มีกลับมีประโยชน์ เหมือนความว่างในแก้วที่ทำให้เราใช้มันได้
12. สีสันฉูดฉาดทำให้ตาบอด เสียงดังทำให้หูหนวก รสจัดทำให้ลิ้นชา ดังนั้นจงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
13. ทั้งเกียรติยศและความอัปยศล้วนน่ากลัว จงรักษาตัวตนของคุณไว้และอย่าให้ค่ากับสิ่งภายนอกมากเกินไป
14. มองไปก็ไม่เห็น ฟังไปก็ไม่ได้ยิน จับต้องก็ไม่ได้ นี่แหละคือเต๋าที่ลึกลับเกินกว่าจะเข้าใจ
15. นักปราชญ์ในสมัยโบราณนั้นลึกล้ำและเข้าใจยาก พวกเขาระมัดระวังเหมือนคนข้ามแม่น้ำในฤดูหนาว
16. ทำจิตใจให้ว่างและนิ่งสงบ รักษาความสงบนั้นไว้ แล้วทุกสิ่งจะค่อยๆ เผยตัวออกมาเอง
17. ผู้ปกครองที่ดีที่สุดคือผู้ที่ประชาชนแทบไม่รู้ว่ามีตัวตนอยู่ รองลงมาคือผู้ที่ประชาชนรักและยกย่อง
18. เมื่อเต๋าถูกลืม ความกรุณาและความยุติธรรมก็ปรากฏขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นของความโง่เขลา
19. ทิ้งความฉลาดและความรู้เสีย แล้วผู้คนจะได้ประโยชน์ร้อยเท่า
20. จงเลิกเรียนรู้และคุณจะไม่ต้องกังวล ระหว่าง "ใช่" กับ "ไม่" ต่างกันแค่ไหน? ระหว่างดีกับชั่วห่างกันเท่าไร?
21. คุณลักษณะที่ยิ่งใหญ่ของเต๋าคือการทำตามธรรมชาติเท่านั้น
22. โค้งงอจะสมบูรณ์ บิดเบี้ยวจะตรง ว่างเปล่าจะเต็ม เก่าจะใหม่ มีน้อยจะได้ มีมากจะหลง
23. พูดน้อยๆ และทำตามธรรมชาติ ลมพายุไม่พัดทั้งเช้า ฝนกระหน่ำไม่ตกทั้งวัน
24. ผู้ที่ยืนเขย่งจะยืนไม่มั่นคง ผู้ที่ก้าวยาวเกินไปจะไปไม่ถึงไหน ผู้ที่อวดตัวจะไม่โดดเด่น
25. มีบางสิ่งที่ก่อกำเนิดจากความอลวน มันมีอยู่ก่อนฟ้าดิน เงียบและว่างเปล่า ยืนหยัดอย่างอิสระและไม่เปลี่ยนแปลง
26. หนักเป็นรากของเบา สงบเป็นนายของกระวนกระวาย
27. นักเดินทางที่ดีไม่ทิ้งร่องรอย นักพูดที่ดีไม่มีที่ให้ตำหนิ นักคำนวณที่ดีไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข
28. รู้จักความเป็นชาย แต่รักษาความเป็นหญิงไว้ เป็นเหมือนห้วยลำธารของโลก
29. หากคุณอยากปกครองโลก จงปล่อยวางการควบคุม โลกเป็นภาชนะทางจิตวิญญาณที่ไม่อาจครอบครองได้
30. ผู้ที่ใช้เต๋าช่วยเหลือผู้ปกครองจะไม่ใช้อาวุธเพื่อบังคับโลก เพราะการกระทำเช่นนั้นมักจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
31. อาวุธเป็นเครื่องมือแห่งความชั่วร้าย ไม่ใช่เครื่องมือของคนดี
32. เต๋าเป็นนิรันดร์และไม่มีชื่อ แม้จะเล็กน้อย แต่โลกไม่อาจครอบงำมันได้
33. รู้จักผู้อื่นคือปัญญา รู้จักตนเองคือความรู้แจ้ง ชนะผู้อื่นคือมีกำลัง ชนะตนเองคือแข็งแกร่ง
34. เต๋าอันยิ่งใหญ่แผ่ซ่านไปทุกหนแห่ง มันอยู่ทั้งซ้ายและขวา ทุกสิ่งพึ่งพามันในการดำรงอยู่
35. จงยึดภาพอันยิ่งใหญ่ไว้ แล้วทั้งโลกจะมาหาคุณ มาหาด้วยความปลอดภัยและสงบสุข เสียงดนตรีและอาหารจะหยุดผู้มาเยือนชั่วคราว
36. เพื่อจะหดตัว มันต้องขยายก่อน เพื่อจะอ่อนแอ มันต้องแข็งแกร่งก่อน เพื่อจะล้ม มันต้องยืนก่อน เพื่อจะรับ มันต้องให้ก่อน นี่เรียกว่าความเข้าใจอันลึกซึ้ง
37. เต๋าไม่เคยกระทำสิ่งใด แต่ไม่มีอะไรที่มันไม่ได้ทำ
38. คุณธรรมสูงสุดไม่มีคุณธรรม ดังนั้นจึงเป็นคุณธรรม คุณธรรมต่ำสุดไม่ขาดคุณธรรม ดังนั้นจึงไม่ใช่คุณธรรม
39. จากความเป็นหนึ่งในอดีต: ฟ้าได้ความบริสุทธิ์ โลกได้ความมั่นคง วิญญาณได้พลังจิต หุบเขาได้ความอุดมสมบูรณ์
40. การคืนกลับคือการเคลื่อนไหวของเต๋า ความอ่อนโยนคือการใช้งานของเต๋า ทุกสิ่งในโลกเกิดจากการมีตัวตน และการมีตัวตนเกิดจากความว่างเปล่า
41. เมื่อนักปราชญ์ได้ยินเรื่องเต๋า เขาปฏิบัติตามอย่างขยันขันแข็ง เมื่อคนธรรมดาได้ยินเรื่องเต๋า บางครั้งก็ทำตาม บางครั้งก็ไม่
42. เต๋าให้กำเนิดหนึ่ง หนึ่งให้กำเนิดสอง สองให้กำเนิดสาม และสามให้กำเนิดทุกสิ่ง ทุกสิ่งแบกยินไว้ข้างหลังและโอบหยางไว้ข้างหน้า
43. สิ่งที่อ่อนแอที่สุดในโลกสามารถเอาชนะสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดได้ สิ่งที่ไร้ตัวตนสามารถแทรกซึมเข้าไปในที่ที่ไม่มีช่องว่างได้
44. ชื่อเสียงหรือชีวิต อะไรสำคัญกว่ากัน? ชีวิตหรือของมีค่า อะไรมีค่ามากกว่า? ได้มาหรือเสียไป อะไรแย่กว่ากัน?
45. ความสมบูรณ์ที่แท้จริงดูเหมือนไม่สมบูรณ์ แต่การใช้งานกลับไม่บกพร่อง ความเต็มที่แท้จริงดูเหมือนว่างเปล่า แต่การใช้งานกลับไม่มีที่สิ้นสุด
46. เมื่อโลกมีเต๋า ม้าวิ่งเร็วถูกใช้ไถนา เมื่อโลกไม่มีเต๋า ม้าศึกถูกเลี้ยงในชานเมือง
47. โดยไม่ต้องออกนอกประตู คุณสามารถรู้จักโลกได้ โดยไม่ต้องมองผ่านหน้าต่าง คุณสามารถเห็นวิถีแห่งสวรรค์ได้
48. การแสวงหาการเรียนรู้ คือการเพิ่มขึ้นทุกวัน การปฏิบัติตามเต๋า คือการลดลงทุกวัน
49. ผู้ปฏิบัติตามเต๋าเปลี่ยนตามโลกอยู่เสมอ เขาไม่มีใจของตัวเอง เขาทำใจของผู้คนเป็นใจของเขา
50. ออกมาสู่ชีวิต เข้าสู่ความตาย สหายของชีวิตมีสิบ สหายของความตายมีสิบ คนเราเคลื่อนไปสู่ดินแดนแห่งความตายในทุกการกระทำของชีวิตก็มีสิบ เพราะเหตุใด? เพราะเขาพยายามทำให้ชีวิตของเขาเข้มข้นเกินไป
51. เต๋าให้กำเนิด พลังเลี้ยงดู สิ่งต่างๆ ให้รูปทรง พลังทำให้สมบูรณ์
52. โลกมีจุดเริ่มต้น ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นมารดาของโลก เมื่อคุณรู้จักมารดา คุณก็จะรู้จักลูก เมื่อคุณรู้จักลูก คุณควรกลับไปยึดมั่นในมารดา แล้วคุณจะปลอดภัยตลอดชีวิต
53. หากฉันมีปัญญาแม้เพียงน้อยนิด ฉันจะเดินไปตามมหาเต๋า และสิ่งเดียวที่ฉันกลัวคือการหลงทาง
54. สิ่งที่หยั่งรากลึกไม่อาจถูกถอนได้ สิ่งที่ได้รับการโอบกอดอย่างแน่นหนาไม่อาจหลุดลอยไปได้
55. ผู้ที่รู้จักความแข็งแกร่งของตน แต่รักษาความอ่อนโยนของตนไว้ คือร่องน้ำของโลก ในฐานะร่องน้ำของโลก พลังนิรันดร์จะไม่ละจากเขา และเขาจะกลับคืนสู่สภาวะของทารก
56. ผู้ที่รู้ไม่พูด ผู้ที่พูดไม่รู้
57. ปกครองประเทศด้วยความเที่ยงธรรม นำทัพด้วยกลยุทธ์ที่ผิดธรรมดา แต่ชนะโลกด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยว
58. เมื่อรัฐบาลเฉื่อยชา ประชาชนจะซื่อตรงและสงบสุข เมื่อรัฐบาลทำงานหนัก ประชาชนจะไม่พอใจและดื้อดึง
59. ในการปกครองผู้คนและรับใช้สวรรค์ ไม่มีอะไรดีเท่ากับความประหยัด ความประหยัดหมายถึงการเตรียมพร้อมล่วงหน้า การเตรียมพร้อมล่วงหน้าหมายถึงการสะสมพลังอย่างมาก
60. ปกครองรัฐใหญ่เหมือนกับการทอดปลาตัวเล็ก ๆ (ด้วยความระมัดระวัง)
61. ประเทศใหญ่ควรเป็นเหมือนปากแม่น้ำที่ต่ำ เป็นจุดบรรจบของโลก เป็นเพศหญิงของโลก
62. เต๋าคือที่หลบภัยของสรรพสิ่ง เป็นสมบัติของคนดีและที่คุ้มครองของคนไม่ดี
63. ทำโดยไม่ทำ จัดการโดยไม่แทรกแซง ลิ้มรสโดยไม่ลิ้มรส
64. สิ่งที่สงบนิ่งง่ายต่อการจับถือ สิ่งที่ยังไม่ปรากฏง่ายต่อการวางแผน สิ่งที่เปราะบางง่ายต่อการทำลาย สิ่งที่เล็กน้อยง่ายต่อการกระจาย จัดการกับสิ่งต่าง ๆ ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น สร้างระเบียบก่อนที่ความสับสนจะเกิดขึ้น
65. ในสมัยโบราณ ผู้ที่ปฏิบัติตามเต๋าได้ดีไม่ได้ใช้มันเพื่อทำให้ผู้คนฉลาดขึ้น แต่เพื่อทำให้พวกเขาเรียบง่ายขึ้น
66. เหตุที่แม่น้ำและทะเลสามารถเป็นราชาของหุบเขาร้อยสายได้ ก็เพราะพวกมันวางตัวต่ำกว่า ดังนั้นจึงสามารถเป็นราชาของหุบเขาร้อยสายได้
67. ทั้งโลกพูดว่าเต๋าของฉันยิ่งใหญ่ แต่ดูไม่เหมือนอะไรเลย ที่มันยิ่งใหญ่ก็เพราะมันไม่เหมือนอะไร ถ้ามันเหมือนอะไรสักอย่าง มันคงเล็กมานานแล้ว
68. ผู้ที่เก่งในการเป็นนักรบไม่ก้าวร้าว ผู้ที่เก่งในการต่อสู้ไม่โกรธ ผู้ที่เก่งในการเอาชนะศัตรูไม่ต่อสู้ ผู้ที่เก่งในการใช้คนวางตัวต่ำกว่า
69. นักการทหารมีคำพูดว่า: "ฉันไม่กล้าเป็นเจ้าภาพ แต่เป็นแขก ไม่กล้ารุกแม้เพียงนิ้ว แต่ถอยหลังฟุต"
70. คำพูดของฉันเข้าใจง่ายมากและปฏิบัติง่ายมาก แต่ไม่มีใครในโลกสามารถเข้าใจหรือปฏิบัติได้
71. รู้ว่าไม่รู้คือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่รู้ว่าตัวเองรู้คือโรคร้าย หากเราตระหนักว่านี่คือโรคร้าย เราก็จะไม่เป็นโรคนี้ นักปราชญ์ไม่ป่วยเพราะเขาตระหนักว่านี่คือโรคร้าย ดังนั้นเขาจึงไม่ป่วย
72. เมื่อประชาชนไม่กลัวอำนาจ อำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าจะมาถึง
73. กล้าที่จะกล้าคือความตาย กล้าที่จะไม่กล้าคือชีวิต ทั้งสองสิ่งนี้บางครั้งเป็นประโยชน์ บางครั้งเป็นอันตราย สวรรค์เกลียดอะไร? ใครจะรู้เหตุผล? แม้แต่นักปราชญ์ก็พบว่ามันยากที่จะอธิบาย
74. หากผู้คนไม่กลัวความตาย แล้วจะขู่ให้พวกเขากลัวด้วยความตายได้อย่างไร?
75. ประชาชนหิวโหยเพราะผู้ปกครองกินภาษีมากเกินไป นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาหิวโหย ประชาชนยากที่จะปกครองเพราะผู้ปกครองทำมากเกินไป นั่นคือเหตุผลที่พวกเขายากที่จะปกครอง
76. คนเรามีชีวิตอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น เมื่อตายก็แข็งและไม่ยืดหยุ่น พืชตอนมีชีวิตก็อ่อนนุ่มและอ่อนโยน เมื่อตายก็แห้งและเปราะ ดังนั้น ผู้ที่แข็งแกร่งและไม่ยืดหยุ่นคือสหายของความตาย ผู้ที่อ่อนนุ่มและยืดหยุ่นคือสหายของชีวิต
77. วิถีแห่งสวรรค์เหมือนกับการดึงคันธนู มันกดส่วนที่สูงลง ยกส่วนที่ต่ำขึ้น ลดส่วนที่เกิน เพิ่มส่วนที่ขาด
78. ไม่มีอะไรในโลกอ่อนโยนและยืดหยุ่นเท่าน้ำ แต่ในการโจมตีสิ่งที่แข็งและแกร่ง ไม่มีอะไรสามารถเอาชนะมันได้
79. หลังจากความขัดแย้งครั้งใหญ่ ย่อมมีความไม่พอใจที่ยังคงอยู่ จะทำอย่างไรได้ดี? ดังนั้น นักปราชญ์ถือสัญญาฝ่ายซ้าย (ฝ่ายลูกหนี้) แต่ไม่เรียกร้องอะไรจากผู้อื่น ผู้มีคุณธรรมดูแลสัญญา ผู้ไร้คุณธรรมดูแลการเก็บภาษี วิถีแห่งสวรรค์ไม่ลำเอียง มันอยู่เคียงข้างคนดีเสมอ
80. ประเทศเล็ก ประชากรน้อย แม้จะมีอุปกรณ์สำหรับสิบหรือร้อยคน แต่ไม่ใช้ ให้ผู้คนเห็นความตายเป็นเรื่องร้ายแรงและไม่เดินทางไกล แม้จะมีเรือและรถ แต่ไม่มีที่ไหนให้ไป แม้จะมีอาวุธและเกราะ แต่ไม่มีเหตุให้แสดงออก ให้ผู้คนกลับมาใช้เชือกผูกปม (แทนการเขียน) ให้อาหารของพวกเขาอร่อย เสื้อผ้าสวยงาม ที่อยู่อาศัยสงบสุข และมีความสุขกับประเพณีของตน แม้ประเทศเพื่อนบ้านจะอยู่ใกล้จนได้ยินเสียงไก่ขันและหมาเห่า แต่ผู้คนก็แก่ตายโดยไม่เคยไปมาหาสู่กัน
81. คำพูดที่น่าเชื่อถือไม่สวยหรู คำพูดที่สวยหรูไม่น่าเชื่อถือ คนดีไม่โต้เถียง คนชอบโต้เถียงไม่ใช่คนดี ผู้ที่รู้ไม่ใช่ผู้รอบรู้ ผู้รอบรู้ไม่ใช่ผู้ที่รู้ นักปราชญ์ไม่สะสม ยิ่งทำเพื่อผู้อื่น ยิ่งมีมากขึ้นสำหรับตัวเอง ยิ่งให้ผู้อื่น ยิ่งมีมากขึ้นสำหรับตัวเอง วิถีแห่งสวรรค์เป็นประโยชน์โดยไม่ทำร้าย วิถีของนักปราชญ์คือการกระทำโดยไม่แข่งขัน
--------------------
เต้าเต๋อจิงกับการสร้างความเป็นผู้นำ
.
.
1. นำโดยไม่ต้องนำ:
• "ผู้นำที่ดีที่สุดคือผู้ที่ผู้คนแทบไม่รู้ว่ามีตัวตนอยู่"
• สร้างระบบและวัฒนธรรมที่ทีมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องควบคุมตลอดเวลา
• เป็นเหมือนกระดูกสันหลังที่ค้ำจุนร่างกาย: สำคัญแต่มองไม่เห็น
.
2. พลังของความว่างเปล่า:
• "ประโยชน์ของภาชนะอยู่ที่ความว่างของมัน"
• สร้างพื้นที่ให้ทีมได้แสดงความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพ
• ไม่เติมทุกช่องว่างด้วยคำสั่งหรือการควบคุม แต่ปล่อยให้ทีมเติมเต็มด้วยตัวเอง
.
3. อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ:
• "สิ่งที่อ่อนโยนที่สุดในโลกชนะสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดได้"
• นำด้วยความเมตตาและความเข้าใจ ไม่ใช่ด้วยการบังคับหรือข่มขู่
• สร้างความไว้วางใจและความร่วมมือผ่านการสนับสนุนและเข้าใจ
.
4. การไม่แทรกแซง (Wu Wei):
• "ทำโดยไม่ทำ และทุกอย่างจะสำเร็จ"
• ให้อิสระแก่ทีมในการตัดสินใจและแก้ปัญหา แทรกแซงเฉพาะเมื่อจำเป็นจริงๆ
• สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน แล้วปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามธรรมชาติ
.
5. เรียนรู้ที่จะไม่รู้:
• "รู้ว่าตนเองไม่รู้ คือปัญญาที่แท้จริง"
• ยอมรับว่าไม่ได้รู้ทุกเรื่อง เปิดใจรับฟังความคิดเห็นและไอเดียใหม่ๆ จากทีม
• สร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้และการทดลอง
.
6. นำโดยเป็นแบบอย่าง:
• "คำพูดที่น่าเชื่อถือไม่สวยหรู คำพูดที่สวยหรูไม่น่าเชื่อถือ"
• แสดงให้เห็นถึงค่านิยมและพฤติกรรมที่ต้องการผ่านการกระทำ ไม่ใช่แค่คำพูด
• สร้างแรงบันดาลใจให้ทีมผ่านการทำงานหนักและความทุ่มเทของตัวเอง
.
7. ปล่อยวางการควบคุม:
• "ยิ่งมีกฎระเบียบมาก ยิ่งมีโจรผู้ร้ายมาก"
• ลดการควบคุมและกฎระเบียบที่ไม่จำเป็น เน้นการสร้างความรับผิดชอบในตัวบุคคล
• ให้ความไว้วางใจแก่ทีม และดูพวกเขาเติบโตขึ้น
.
8. เข้าใจจังหวะของธรรมชาติ:
• "ธรรมชาติไม่เร่งรีบ แต่ทุกอย่างสำเร็จ"
• เข้าใจว่าการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ไม่เร่งผลลัพธ์จนเกินไป
• รู้จักรอเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินการหรือตัดสินใจ
.
9. สร้างความสมดุล:
• "ทางสายกลางคือหนทางที่ยั่งยืน"
• รักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน ระหว่างความท้าทายและการสนับสนุน
• สร้างสภาพแวดล้อมที่ทั้งมีประสิทธิภาพและมีความสุข
.
10. ไม่แสวงหาการยกย่อง:
• "ทำงานให้สำเร็จแล้วถอยออกมา"
• ไม่เรียกร้องความดีความชอบ แต่ให้เกียรติและยกย่องทีมงาน
• เข้าใจว่าความสำเร็จที่แท้จริงคือการที่ทีมสามารถทำงานได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งพาเราตลอดเวลา
.
ลองนำหลักการเหล่านี้ไปใช้ เช่น การเป็นผู้นำที่ "มองไม่เห็น" แต่ทรงพลัง หรือที่เราเรียกว่า "Invisible Leader" แล้วดูว่าทีมของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างไร... หรือไม่ก็อาจจะสงสัยว่าคุณหายไปไหน
.
.
---------------------
.
หยินหยาง : สมดุลแห่งชีวิต
.
.
แนวคิดเรื่องหยินหยาง ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการสร้างสมดุลในทุกแง่มุมของชีวิต มาดูกันว่าหลักการนี้สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไร:
.
1. การกระทำและการไม่กระทำ
• หยิน: การไม่กระทำ (Wu Wei) - รู้จักปล่อยวางและไม่ฝืนสถานการณ์
• หยาง: การลงมือทำ - ดำเนินการอย่างจริงจังเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
• การประยุกต์ใช้: รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพยายาม และเมื่อไหร่ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
.
2. ความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน
• หยิน: ความอ่อนโยน - ยืดหยุ่น เข้าใจ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
• หยาง: ความแข็งแกร่ง - มั่นคง กล้าตัดสินใจ และยืนหยัดในหลักการของตนเอง
• การประยุกต์ใช้: รู้จักใช้ความแข็งแกร่งเมื่อจำเป็น แต่ไม่ลืมที่จะแสดงความอ่อนโยนในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
.
3. การพูดและการฟัง
• หยิน: การฟัง - รับฟังความคิดเห็นและมุมมองของผู้อื่น
• หยาง: การพูด - แสดงความคิดเห็นและสื่อสารอย่างชัดเจน
• การประยุกต์ใช้: สร้างสมดุลระหว่างการรับฟังและการแสดงความคิดเห็นในการสนทนา
.
4. ความรู้และความไม่รู้
• หยิน: ยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้ - เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ
• หยาง: ใช้ความรู้และประสบการณ์ที่มี - แบ่งปันสิ่งที่รู้กับผู้อื่น
• การประยุกต์ใช้: ภูมิใจในความรู้ที่มี แต่ก็ยอมรับว่ายังมีอีกมากที่ต้องเรียนรู้
.
5. การควบคุมและการปล่อยวาง
• หยิน: การปล่อยวาง - ยอมรับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
• หยาง: การควบคุม - จัดการกับสิ่งที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้
• การประยุกต์ใช้: รู้จักแยกแยะสิ่งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ เพื่อจัดการชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ
.
6. การเปลี่ยนแปลงและความคงที่
• หยิน: ยอมรับและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง
• หยาง: รักษาเสถียรภาพและความต่อเนื่องในชีวิต
• การประยุกต์ใช้: เปิดรับสิ่งใหม่ๆ แต่ยังคงรักษาค่านิยมหลักของตนเอง
.
7. การแข่งขันและความร่วมมือ
• หยิน: ส่งเสริมความร่วมมือและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
• หยาง: กระตุ้นตนเองให้พัฒนาผ่านการแข่งขันที่สร้างสรรค์
• การประยุกต์ใช้: รู้จักแข่งขันกับตนเอง แต่ก็พร้อมร่วมมือกับผู้อื่น
.
8. การให้และการรับ
• หยิน: การรับ - เปิดใจรับความช่วยเหลือและน้ำใจจากผู้อื่น
• หยาง: การให้ - แบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไม่หวังผลตอบแทน
• การประยุกต์ใช้: สร้างสมดุลระหว่างการให้และการรับในความสัมพันธ์กับผู้อื่น
.
9. การมองภาพรวมและการใส่ใจรายละเอียด
• หยิน: มองภาพรวมและเป้าหมายระยะยาวของชีวิต
• หยาง: ใส่ใจในรายละเอียดและการดำเนินชีวิตประจำวัน
• การประยุกต์ใช้: วางแผนชีวิตในระยะยาว แต่ก็ไม่ละเลยการดูแลตนเองในแต่ละวัน
.
10. การทำงานและการพักผ่อน
• หยิน: ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนและการฟื้นฟูพลัง
• หยาง: มุ่งมั่นและทุ่มเทในการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ
• การประยุกต์ใช้: สร้างสมดุลระหว่างการทำงานอย่างหนักและการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
.
.
-------------------
.
.
เต้าเต๋อจิงเหมือนคัมภีร์สามก๊กฉบับย่อของชีวิต ที่สอนให้เรารู้จักใช้กลยุทธ์แบบขงเบ้งแต่ใจเย็นเหมือนแมวนอนอาบแดด ชีวิตคือสมรภูมิที่เราต้องรู้จักทั้งรุกและถอย จงเป็นเหมือนน้ำที่ไหลเอื่อยแต่กัดเซาะภูเขาได้ ปรับตัวได้ทุกสถานการณ์ และถ้าชีวิตเป็นเกมหมากรุก บางครั้งการวางหมากในตำแหน่งที่คาดไม่ถึงอาจนำไปสู่ชัยชนะที่ไม่มีใครคาดคิด ถ้าคุณมีความมุ่งมั่นแบบหมีแพนด้าที่นั่งเคี้ยวต้นไผ่ได้ทั้งวัน
.
.
.
.
#SuccessStrategies #TaoTeChing
บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies
.