Kaizen: การปฏิวัติแบบค่อยเป็นค่อยไปที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ
Kaizen: การปฏิวัติแบบค่อยเป็นค่อยไปที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ
.
"Kaizen" ไม่ใช่การแช่น้ำร้อนแบบใหม่ แต่เป็นแนวคิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องที่จะทำให้คุณกลายเป็นเวอร์ชันที่ดีขึ้นของตัวเองในทุกๆ วัน
.
Kaizen คืออะไร?
.
Kaizen (改善) เป็นคำภาษาญี่ปุ่น แปลว่า "การปรับปรุง" โดยแยกเป็น "Kai" (改) แปลว่า เปลี่ยนแปลง และ "Zen" (善) แปลว่า ดี รวมกันจึงหมายถึง "การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น" ถ้าจะให้อธิบายแบบสั้นๆ ก็คือ "การทำให้ดีขึ้นทีละนิด จนกลายเป็นเรื่องใหญ่" หรือพูดให้เท่ๆ ก็คือ "Rome wasn't built in a day, but they were laying bricks every hour" โรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว แต่พวกเขาก็ก่ออิฐทุกชั่วโมง นั่นแหละครับ Kaizen
.
ในบริบทของการบริหารจัดการ Kaizen หมายถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้านขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต การบริการ หรือแม้แต่การบริหารทรัพยากรบุคคล โดยเน้นการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงพนักงานในสายการผลิต
.
แล้วทำไมคุณถึงควรสนใจ Kaizen?
เพราะมันคือ "ยาวิเศษ" ในโลกธุรกิจที่ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ และยังเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้คุณกลายเป็น "เวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเอง" โดยไม่ต้องทุ่มเททรัพยากรมหาศาล หรือต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน
.
---------------------------
.
ประวัติศาสตร์ Kaizen: จากสนามรบสู่ห้องประชุม
.
เชื่อไหมครับว่า Kaizen ไม่ได้เกิดในญี่ปุ่น? จริงๆ แล้วมันถือกำเนิดในสหรัฐอเมริกา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พัฒนาโปรแกรม Training Within Industry (TWI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ โปรแกรมนี้เน้นการปรับปรุงกระบวนการทำงานทีละเล็กทีละน้อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแก่นแท้ของ Kaizen เรียกว่าเป็นการ "ปรับปรุงเพื่อเอาชนะสงคราม" ก็ว่าได้
.
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สหรัฐฯ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมญี่ปุ่น โดยนำแนวคิดนี้ไปเผยแพร่ด้วย นักบริหารชาวญี่ปุ่นอย่าง Taiichi Ohno ของ Toyota ได้นำแนวคิดนี้มาปรับใช้และพัฒนาต่อ จนกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบการผลิตแบบโตโยต้า (Toyota Production System) ที่โด่งดังไปทั่วโลก
.
เรียกว่าเป็นการ "ส่งออกความรู้ แล้วนำเข้ากลับมาในรูปแบบที่ดีกว่าเดิม" แบบว่าเป็น "การค้าที่ได้กำไรทั้งสองฝ่าย" ยังไงล่ะครับ
.
---------------------------
.
หลักการพื้นฐานของ Kaizen
.
Kaizen เชื่อว่า "การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ทำอย่างต่อเนื่อง จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่" ซึ่งตรงข้ามกับความเชื่อที่ว่า "ต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมก่อนถึงจะเริ่มทำ" ซึ่งผมขอเรียกว่าเป็น "กับดักแห่งความสมบูรณ์แบบ" ที่ทำให้หลายคนไม่กล้าเริ่มต้นอะไรเลย
.
ลองคิดดูนะครับ ถ้าคุณอยากวิ่งมาราธอน แต่รอให้ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ มีรองเท้าวิ่งรุ่นท็อป และสภาพอากาศสมบูรณ์แบบก่อน คุณอาจจะไม่ได้วิ่งไปจนแก่เฒ่าเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณเริ่มจากการเดินวันละ 10 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็น 15 นาที 20 นาที และวิ่งเบาๆ สลับกับเดิน ในที่สุดคุณก็จะสามารถวิ่งมาราธอนได้โดยไม่รู้ตัว นี่แหละครับคือพลังของ Kaizen
.
Kaizen ตั้งอยู่บนหลักการสำคัญหลายประการ:
.
1. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: ไม่มีกระบวนการใดที่สมบูรณ์แบบ ทุกอย่างสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้เสมอ
.
2. การมีส่วนร่วมของทุกคน: Kaizen ไม่ใช่หน้าที่ของแผนกใดแผนกหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบของทุกคนในองค์กร เรียกว่าเป็น "ประชาธิปไตยแห่งการพัฒนา" ก็ว่าได้
.
3. การเน้นกระบวนการ: Kaizen ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการ เชื่อว่าถ้ากระบวนการดี ผลลัพธ์ก็จะดีตามมา
.
4. การกำจัดความสูญเปล่า: Kaizen พยายามค้นหาและกำจัด "มุดะ" (Muda) หรือความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน
.
5. การใช้ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์: การตัดสินใจในการปรับปรุงต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจริง ไม่ใช่ความรู้สึก
.
6. การแก้ปัญหาที่รากเหง้า: Kaizen ไม่เพียงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่พยายามค้นหาและแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา
.
----------------------------
.
เครื่องมือ Kaizen ที่จะทำให้คุณกลายเป็นนินจาแห่งการปรับปรุง
.
1. 5S: วิธีจัดระเบียบที่ทำงานโดยไม่ต้องจ้างแม่บ้าน
- Seiri (整理) : แยกของที่จำเป็นและไม่จำเป็น
- Seiton (整頓) : จัดวางทุกอย่างให้เป็นระเบียบ
- Seiso (清掃) : ทำความสะอาด
- Seiketsu (清潔) : รักษามาตรฐาน
- Shitsuke (躾) : สร้างวินัย
.
.
2. PDCA: วงจรวิเศษที่ไม่ใช่แค่ตัวอักษรเรียงกันอย่างไร้ความหมาย
- Plan: วางแผน (อย่าแค่คิดในใจ เขียนออกมาด้วย)
- Do: ลงมือทำ (ไม่ใช่แค่วางแผนแล้วเก็บไว้ในลิ้นชัก)
- Check: ตรวจสอบ (ดูว่าเป็นไปตามแผนไหม หรือมีอะไรผิดพลาด)
- Act: ปรับปรุง (แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด และเริ่มวงจรใหม่)
.
.
3. 5 Whys: เทคนิคถามทำไม 5 ครั้งที่จะทำให้คุณน่ารำคาญเหมือนเด็ก 5 ขวบ (แต่ได้ผลจริง)
ตัวอย่าง:
- ทำไมยอดขายลดลง? เพราะลูกค้าซื้อน้อยลง
- ทำไมลูกค้าซื้อน้อยลง? เพราะสินค้าไม่ตรงความต้องการ
- ทำไมสินค้าไม่ตรงความต้องการ? เพราะเราไม่ได้สำรวจตลาด
- ทำไมไม่ได้สำรวจตลาด? เพราะไม่มีงบประมาณ
- ทำไมไม่มีงบประมาณ? เพราะผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญ
สรุป: ปัญหาที่แท้จริงคือ ผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญของการสำรวจตลาด
.
.
4. Value Stream Mapping (VSM): แผนที่กระบวนการที่จะทำให้คุณเห็นการไหลของคุณค่า (และความสูญเปล่า)
VSM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงลูกค้า ช่วยให้คุณระบุจุดที่เกิดความสูญเปล่าและโอกาสในการปรับปรุงได้ง่ายขึ้น มันเหมือนกับการใช้ Google Maps เพื่อหาเส้นทางที่เร็วที่สุดในการไปถึงจุดหมาย แต่แทนที่จะหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด คุณกำลังหลีกเลี่ยงความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน
.
.
5. Kanban: ระบบจัดการงานที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นผู้กำกับภาพยนตร์
Kanban ช่วยให้คุณมองเห็นการไหลของงานได้ชัดเจน ควบคุมปริมาณงานระหว่างทำ และระบุคอขวดในกระบวนการได้อย่างรวดเร็ว คิดซะว่าคุณกำลังกำกับภาพยนตร์ และ Kanban คือบอร์ดที่แสดงฉากทั้งหมดที่ต้องถ่ายทำ คุณจะเห็นว่าฉากไหนกำลังถ่ายทำ ฉากไหนเสร็จแล้ว และฉากไหนที่มีปัญหาติดขัด
.
------------------------
.
ข้อดีและข้อท้าทายของ Kaizen: เพราะไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์แบบ
.
ข้อดีที่จะทำให้คุณอยากลองทำทันที:
.
1. ประหยัดต้นทุน: การปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ มักไม่ต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่ผลลัพธ์รวมกันอาจมหาศาล
2. เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน: ทุกคนมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการปรับปรุง
3. สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้: องค์กรจะเต็มไปด้วยบรรยากาศของการเรียนรู้และพัฒนาอยู่เสมอ
4. เพิ่มความยืดหยุ่น: การปรับปรุงทีละเล็กทีละน้อยทำให้องค์กรปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น
5. ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน: การเปลี่ยนแปลงทีละเล็กน้อยมักจะยั่งยืนกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
.
.
ข้อท้าทายที่อาจทำให้คุณปวดหัว (แต่คุ้มค่า):
.
1. ต้องใช้เวลาและความอดทน: ผลลัพธ์อาจไม่เห็นทันที ต้องอดทนและทำอย่างต่อเนื่อง
2. การต่อต้านการเปลี่ยนแปลง: บางคนอาจไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ก็ตาม
3. การรักษาแรงจูงใจ: อาจเป็นเรื่องยากที่จะรักษาแรงจูงใจในการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
4. การวัดผล: บางครั้งอาจยากที่จะวัดผลของการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ
5. การรักษาสมดุล: ต้องระวังไม่ให้มุ่งเน้นการปรับปรุงจนละเลยงานประจำ
.
---------------
.
บทสัมภาษณ์พิเศษ: มุมมองจาก "ผู้เชี่ยวชาญ" Kaizen
.
ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีครับ วันนี้เรามาคุยกันเรื่อง Kaizen กับผู้เชี่ยวชาญของเรา เชิญแนะนำตัวครับ
.
คุณบิท คริปโตคลั่ง: สวัสดีครับ ผมบิท คริปโตคลั่ง CEO บริษัท "บิทกระทิงทะยาน จำกัด (มหาชน)" ผู้สร้างแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ทำให้คุณรวยขึ้นทีละบาท... หรือจนลงทีละพัน แต่เราเรียกมันว่า "การลงทุนแบบ Kaizen" ครับ
.
ผู้สัมภาษณ์: คุณนำหลัก Kaizen ไปพัฒนาธุรกิจยังไงครับ?
.
คุณบิท: เรามี "ระบบ Work-Work-Work balance" พนักงานทุกคนต้องใส่ "บิทแว่นตา" ให้เห็นกราฟคริปโตลอยอยู่ทุกที่! ทานข้าว อาบน้ำ นอน ก็เทรดได้! เราเรียกมันว่า "การทำงานแบบ 25/8" เพราะ 24/7 มันน้อยเกินไปสำหรับเรา!
.
ถ้ามีใครคิดจะพัก เราส่งไปอบรม "หลักสูตรเทรดคริปโต 24/7 ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันนอน" ทันที! นี่คือ Kaizen แบบไม่หยุดพัก ไม่หยุดพัฒนา! เราเรียกวิธีนี้ว่า "การบริหารความเสี่ยงด้วยการไม่ยอมรับความเสี่ยง"
.
ผู้สัมภาษณ์: แล้วคุณมีวิธีวัดผลการพัฒนาแบบ Kaizen ยังไงครับ?
.
คุณบิท: เรามีแอพพิเศษชื่อ "KaizenCoin" ครับ ทุกครั้งที่พนักงานทำอะไรดีๆ จะได้เหรียญ KaizenCoin! สะสมครบ 1 ล้านเหรียญ แลกเป็นวันหยุดพักได้ 1 วัน! นี่แหละครับ การให้รางวัลแบบ Kaizen ค่อยๆ ให้ ค่อยๆ พัก
.
ผู้สัมภาษณ์: แล้วถ้าพนักงานเครียด คุณมีวิธีจัดการยังไงครับ?
.
คุณบิท: เรามีห้อง "Kaizen Chill Zone" ครับ! ข้างในมีแต่จอคอมพิวเตอร์ที่ฉายกราฟคริปโตตลอด 24 ชั่วโมง! พนักงานจะได้พักผ่อนไปพร้อมกับดูราคาขึ้นลง นี่คือการพักผ่อนแบบ Multitasking ครับ!
.
ผู้สัมภาษณ์: คุณมีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากใช้ Kaizen ในชีวิตบ้างครับ?
.
คุณบิท: ผมแนะนำให้เริ่มจากเรื่องเล็กๆ ก่อนครับ เช่น ลงทุนในคริปโตวันละ 1 บาท แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นวันละ 10 บาท 100 บาท 1,000 บาท... จนกว่าคุณจะขายบ้านมาลงทุนทั้งหมด! นี่คือ Kaizen แบบค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ค่อยๆหมดตัว!
.
ผู้สัมภาษณ์: สุดท้ายนี้ คุณมีอะไรจะฝากถึงผู้ฟังไหมครับ?
.
คุณบิท: ผมอยากฝากไว้ว่า ไม่มีการขาดทุน มีแต่การลงทุนที่ยังไม่ได้กำไร Kaizen คือการพัฒนาไปเรื่อยๆ ตอนเด็กผมเคยเป็นเด็กเกเร แต่แทนที่จะชกต่อยเพื่อน ผมดันไปเทรดคริปโตจนขาดทุนยับเยิน! แต่นั่นแหละครับคือจุดเปลี่ยนชีวิต! แทนที่พ่อแม่จะส่งผมไปเรียนนิวซีแลนด์ ผมเลยถูกส่งไปฝึกงานที่ตลาดหลักทรัพย์ดาวอังคาร! และกลายเป็น CEO แบบทุกวันนี้ ชีวิตคนเราพัฒนาได้เสมอครับ Kaizen To the Moon and HODL!
.
ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณมากครับคุณบิท
.
---------------------
.
10 แนวคิดแบบ Kaizen
.
1. เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ ที่ทำได้จริง
ความสำเร็จเริ่มจากก้าวแรกที่เป็นไปได้ ไม่ใช่ความฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไกลเกินเอื้อม
.
2. สร้างนิสัยดีทีละนิด ทำซ้ำทุกวัน
ความสม่ำเสมอคือกุญแจสู่การเปลี่ยนแปลง ทำจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ภาระที่ต้องฝืนทำ
.
3. ฝึกมองหาความก้าวหน้าแม้เพียงเล็กน้อย
ชื่นชมทุกความสำเร็จ ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน เพราะทุกก้าวคือส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่เป้าหมาย
.
4. เรียนรู้จากความล้มเหลว ไม่ใช่กลัวมัน
ความผิดพลาดคือบทเรียน ไม่ใช่จุดจบ ใช้มันเป็นบันไดสู่ความสำเร็จในครั้งต่อไป
.
5. แตกเป้าหมายใหญ่เป็นขั้นตอนย่อยๆ
ทำให้สิ่งที่ดูเหลือบ่ากว่าแรงกลายเป็นภารกิจที่จัดการได้ทีละนิด
.
6. ให้รางวัลตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมายย่อย
สร้างแรงจูงใจด้วยรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อกระตุ้นให้ทำต่อไป
.
7. ทำให้กระบวนการพัฒนาตนเองสนุกและน่าสนใจ
หาวิธีทำให้การพัฒนาตนเองเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ไม่ใช่ภาระที่น่าเบื่อ
.
8. ปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนา
จัดพื้นที่และเวลาให้เหมาะสม ลดสิ่งรบกวนที่อาจทำให้หลุดจากเป้าหมาย
.
9. วัดผลอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่ายึดติดจนเกินไป
ติดตามความก้าวหน้า แต่อย่าให้ตัวเลขเป็นตัวกำหนดความสุขของคุณ
.
10. อดทนและมุ่งมั่น เพราะการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา
Kaizen คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงชั่วข้ามคืน
.
.
Kaizen สอนให้เราเห็นคุณค่าของการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับที่ซามูไรฝึกฝนดาบทุกวัน ไม่ใช่เพื่อชนะศึกครั้งใหญ่ แต่เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทีละนิด เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านั้นจะสะสมกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่คุณไม่เคยคิดว่าจะทำได้
.
.
.
.
#SuccessStrategies #Kaizen
บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies
.