Eudaimonia: เส้นทางสู่ชีวิตที่เปี่ยมความหมาย
Eudaimonia: เส้นทางสู่ชีวิตที่เปี่ยมความหมาย
.
ในยุคที่ความสุขมักถูกวัดด้วยยอดไลค์บนโซเชียลมีเดียหรือตัวเลขในบัญชีธนาคาร มีแนวคิดโบราณที่ท้าทายให้เรามองลึกลงไปในความหมายของการมีชีวิตที่ดี นั่นคือ "Eudaimonia" (อ่านว่า ยู-ได-โม-เนีย) แนวคิดนี้อาจเปลี่ยนมุมมองของคุณต่อความสุขและความสำเร็จอย่างสิ้นเชิง
.
คำว่า "Eudaimonia" มาจากภาษากรีก εὐδαιμονία ซึ่งประกอบด้วย εὖ (eu) แปลว่า "ดี" หรือ "งาม" และ δαίμων (daimon) แปลว่า "จิตวิญญาณ" หรือ "เทพผู้คุ้มครอง" โดยรวมแล้ว Eudaimonia จึงหมายถึง "ความสุขที่เกิดจากการมีชีวิตที่ดี" หรือ "ความเจริญรุ่งเรืองของจิตวิญญาณ"
.
.
------------------------------------
.
[ รากฐานทางปรัชญา ]
.
.
อริสโตเติล ผู้วางรากฐานแนวคิด Eudaimonia อธิบายว่ามันไม่ใช่เพียงความสุขชั่วครู่ แต่เป็นสภาวะของการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับคุณธรรมและเหตุผล เขากล่าวว่า "เราเป็นสิ่งที่เราทำซ้ำๆ ดังนั้น ความเป็นเลิศจึงไม่ใช่การกระทำ แต่เป็นนิสัย"
.
ลองนึกภาพว่าชีวิตของคุณเป็นเหมือนสวนที่งดงาม การบรรลุ Eudaimonia ไม่ใช่แค่การปลูกดอกไม้สวยๆ สักครั้งแล้วปล่อยทิ้งไว้ แต่เป็นการดูแลสวนนั้นอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำ พรวนดิน กำจัดวัชพืช จนกระทั่งสวนนั้นเติบโตและงอกงามอย่างยั่งยืน
.
โสกราตีสเสริมแนวคิดนี้ด้วยคำพูดอมตะ: "ชีวิตที่ไม่ได้ไตร่ตรอง ไม่คุ้มค่าแก่การมีชีวิตอยู่" เน้นย้ำความสำคัญของการรู้จักตนเอง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่ Eudaimonia
.
.
-----------------------------
.
[ จิตวิทยาแห่งความเจริญรุ่งเรือง ]
.
.
จิตวิทยาเชิงบวก นำโดย Martin Seligman ได้นำแนวคิด Eudaimonia มาประยุกต์ใช้ในการศึกษาความสุขและความเจริญรุ่งเรืองของมนุษย์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โมเดล PERMA ของ Seligman เป็นกรอบแนวคิดที่ครอบคลุมองค์ประกอบของชีวิตที่ดี:
.
- P - Positive Emotion: อารมณ์เชิงบวก
- E - Engagement: การมีส่วนร่วมและภาวะ "Flow"
- R - Relationships: ความสัมพันธ์ที่ดี
- M - Meaning: ความหมายในชีวิต
- A - Accomplishment: ความสำเร็จ
.
ลองนึกถึง PERMA เหมือนส่วนผสมในสูตรอาหารแห่งความสุข เช่นเดียวกับที่อาหารอร่อยต้องมีรสชาติครบรส ชีวิตที่สมบูรณ์ก็ต้องมีองค์ประกอบครบทั้ง 5 ด้าน
.
การวิจัยจาก Harvard Study of Adult Development ยืนยันว่าความสัมพันธ์ที่ดีคือปัจจัยสำคัญที่สุดของความสุขและสุขภาพที่ดีในระยะยาว Robert Waldinger ผู้อำนวยการโครงการกล่าวว่า "ความเหงาฆ่าคนได้ มันอันตรายเท่ากับการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน"
.
นึกภาพว่าความสัมพันธ์ที่ดีเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงแต่ปกป้องเราจากความทุกข์ แต่ยังเสริมพลังให้เราเติบโตและเผชิญความท้าทายในชีวิตได้อย่างมั่นคง
.
.
----------------------------------
.
[ ประสาทวิทยาแห่งความสุข ]
.
.
ประสาทวิทยาได้เปิดเผยกลไกทางชีวภาพที่อยู่เบื้องหลัง Eudaimonia โดยพบว่าสมองของเราไม่ได้มีไว้แค่ประมวลผลข้อมูล แต่เป็นโรงงานผลิตความสุขและความหมายด้วย
.
Richard Davidson นักประสาทวิทยาชื่อดัง ค้นพบว่าการฝึกสมาธิสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมองได้ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจ
.
ลองนึกภาพว่าสมองของเราเป็นเหมือนเครื่องดนตรีที่ซับซ้อน การฝึกสมาธิเปรียบเสมือนการปรับจูนเครื่องดนตรีนั้นให้บรรเลงเพลงแห่งความสุขและความเห็นอกเห็นใจได้อย่างไพเราะ
.
.
-----------------------------
.
[ มิติทางสังคมของ Eudaimonia ]
.
.
Eudaimonia ไม่ได้เกิดขึ้นในสูญญากาศ แต่ถูกหล่อหลอมโดยบริบททางสังคมและวัฒนธรรม Émile Durkheim เสนอแนวคิดเรื่อง "ความเป็นปึกแผ่นทางสังคม" (Social Cohesion) ชี้ให้เห็นว่าความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนมีผลอย่างมากต่อความเป็นอยู่ที่ดีของบุคคล
.
นึกภาพสังคมเป็นเหมือนผ้าทอผืนใหญ่ แต่ละคนเป็นเส้นใยที่ถักทอเข้าด้วยกัน ยิ่งเราเชื่อมโยงกันแน่นแฟ้นเท่าไหร่ ผ้าผืนนั้นก็ยิ่งแข็งแรงและงดงามมากขึ้นเท่านั้น
.
Robert Putnam ในหนังสือ "Bowling Alone" ชี้ให้เห็นถึงการลดลงของ "ทุนทางสังคม" (Social Capital) ในสังคมอเมริกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน เขาเสนอว่าการมีส่วนร่วมในชุมชนและการสร้างเครือข่ายทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเป็นปึกแผ่นของสังคม
.
.
-----------------------------
.
[ เศรษฐศาสตร์แห่งความสุข ]
.
.
เศรษฐศาสตร์ความสุข (Happiness Economics) เป็นสาขาที่เชื่อมโยงแนวคิด Eudaimonia กับการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ Richard Easterlin นำเสนอ "Easterlin Paradox" ที่พบว่าหลังจากระดับรายได้หนึ่ง การเพิ่มขึ้นของรายได้ไม่ได้ทำให้ความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
.
ลองนึกภาพว่าความสุขเป็นเหมือนแก้วน้ำ เงินทองเป็นเหมือนน้ำที่เติมลงไป ในตอนแรก น้ำจะเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อแก้วเต็ม การเติมน้ำเพิ่มก็ไม่ได้ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอีก เช่นเดียวกับชีวิต เมื่อเราพ้นจากความยากจน เงินทองที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากขึ้นเท่าไหร่นัก
.
.
-----------------------------
.
[ มุมมองจากศาสนาและปรัชญาตะวันออก ]
.
.
แนวคิดของ Eudaimonia มีความสอดคล้องกับหลักคำสอนในศาสนาและปรัชญาตะวันออกหลายประการ:
.
- พุทธศาสนาเสนอแนวคิดเรื่อง "มัชฌิมาปฏิปทา" หรือทางสายกลาง สอดคล้องกับ Eudaimonia ในแง่ของการแสวงหาความสมดุลและการพัฒนาปัญญา
- ลัทธิเต๋า (Taoism) เน้นการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับ "เต๋า" หรือวิถีธรรมชาติ สะท้อนถึงการยอมรับและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง
- หลักคำสอนของขงจื๊อเน้นความสำคัญของความสัมพันธ์ทางสังคมและหน้าที่ต่อครอบครัวและสังคม
.
ลองนึกภาพว่าชีวิตเป็นเหมือนการเดินทางบนเส้นทางที่คดเคี้ยว แนวคิดตะวันออกเหล่านี้เป็นเหมือนแผนที่ที่ช่วยนำทางเราไปสู่จุดหมายแห่ง Eudaimonia โดยแต่ละปรัชญาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรู้จักตนเอง การอยู่ร่วมกับผู้อื่น และการดำเนินชีวิตอย่างสมดุล
.
.
--------------------------------
.
[ ความสุขและความสำเร็จ Eudaimonia ในชีวิตจริง ]
.
.
Eudaimonia มีความหลากหลายตามแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น:
.
1. สายมินิมอล:
"ความสำเร็จคือการมีน้อยลง แต่มีความหมายมากขึ้น"
นี่คือการพบ Eudaimonia ผ่านความเรียบง่ายและการตระหนักรู้
.
2. นักเดินทางตัวยง:
"ความสุขคือการมีพาสปอร์ตที่เต็มไปด้วยตราประทับ และใจที่เต็มไปด้วยประสบการณ์"
สะท้อนการพัฒนาตนเองผ่านการเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ
.
3. คนรักครอบครัว:
"Eudaimonia ของฉันอยู่ในรอยยิ้มของลูก และเสียงหัวเราะของครอบครัว"
แสดงถึงการพบความสมบูรณ์ในความสัมพันธ์และการเลี้ยงดู
.
4. สายสุขภาพ:
"ความสมดุลคือการวิ่งจนเหงื่อท่วมตัว แล้วกินผัดกะเพราไก่ไข่ดาวโดยไม่รู้สึกผิด"
นี่คือการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ Eudaimonia
.
5. นักธุรกิจใจบุญ:
"ความสำเร็จคือการเห็นธุรกิจเติบโตควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคม"
สะท้อนการพบความสมดุลระหว่างความสำเร็จส่วนตัวและการทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
.
6. ครูผู้ทุ่มเท:
"ความสุขคือการเห็นประกายในดวงตาของนักเรียนเมื่อเขาเข้าใจบทเรียน"
แสดงถึงการพบความหมายในการพัฒนาผู้อื่น
.
7. ศิลปินอิสระ:
"Eudaimonia สำหรับฉันคือการสร้างงานที่ทำให้ทั้งตัวเองและผู้ชมรู้สึกมีชีวิตชีวา"
สะท้อนการแสดงออกซึ่งตัวตนและการสร้างผลกระทบทางอารมณ์
.
8. นักวิทยาศาสตร์:
"ความสำเร็จคือการค้นพบสิ่งใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลก แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว"
แสดงถึงการพบความหมายในการขยายขอบเขตความรู้ของมนุษยชาติ
.
9. พ่อค้าแม่ค้า:
"ความสุขคือการได้ยินลูกค้าบอกว่าอาหารของเราทำให้พวกเขานึกถึงบ้าน"
สะท้อนการสร้างคุณค่าและความสัมพันธ์ผ่านการทำงาน
.
10. ผู้เกษียณอายุ:
"Eudaimonia ในวัยเกษียณคือการมีเวลาทำสิ่งที่รักโดยไม่ต้องรีบเร่ง และแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตกับคนรุ่นหลัง"
แสดงถึงการพบความสมบูรณ์ในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายและการส่งต่อภูมิปัญญา
.
และ
.
11. สายเกมเมอร์สุดติ่ง: "Eudaimonia คือการเล่นเกมจนถึง Level สุดท้าย แล้วค้นพบว่า Final Boss คือพ่อแม่ที่ยืนถือค่าไฟอยู่หลังเรามาตลอด" สะท้อนการค้นพบความจริงของชีวิตผ่านประสบการณ์เสมือนจริง และการเผชิญหน้ากับความรับผิดชอบในโลกแห่งความเป็นจริง (ที่ไม่มีปุ่ม Restart)
.
.
--------------------------------
.
[ การนิยามความสุขและความสำเร็จ ]
.
.
ในการแสวงหา Eudaimonia เราจำเป็นต้องพิจารณาว่าเรานิยาม "ความสุข" และ "ความสำเร็จ" อย่างไร นักปรัชญาและนักคิดตลอดประวัติศาสตร์ได้เสนอมุมมองที่หลากหลายและน่าสนใจ:
.
การนิยามความสุข
.
1. ความสุขแบบ Hedonism:
Epicurus เสนอว่าความสุขคือการแสวงหาความพึงพอใจและหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด แต่เน้นความพึงพอใจทางปัญญามากกว่าทางกาย
.
ลองนึกภาพว่าชีวิตเป็นเหมือนการชิมไวน์ - เราควรเลือกจิบรสชาติที่ละเมียดละไม แทนที่จะดื่มจนเมามาย
.
2. ความสุขแบบ Stoicism:
Marcus Aurelius มองว่าความสุขเกิดจากการยอมรับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ และมุ่งเน้นพัฒนาคุณธรรมภายใน
.
เปรียบเสมือนต้นไม้ที่ยืนหยัดท่ามกลางพายุ - ไม่ว่าลมจะแรงเพียงใด รากแก้วแห่งคุณธรรมจะทำให้เรามั่นคง
.
3. ความสุขแบบ Existentialism:
Jean-Paul Sartre เชื่อว่าความสุขเกิดจากการสร้างความหมายให้กับชีวิตด้วยตัวเอง ในโลกที่ไม่มีความหมายโดยธรรมชาติ
.
ชีวิตคือผืนผ้าใบเปล่า - เราเป็นทั้งจิตรกรและภาพวาด สร้างสรรค์ความหมายด้วยสีสันแห่งการกระทำของเรา
.
4. ความสุขแบบ Buddhist:
พุทธศาสนามองว่าความสุขที่แท้จริงเกิดจากการปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น และการเข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของความเป็นจริง
.
เหมือนการว่ายน้ำในมหาสมุทร - แทนที่จะพยายามยึดเกาะคลื่น เราเรียนรู้ที่จะลอยตัวและไหลไปกับกระแสของชีวิต
.
.
การนิยามความสำเร็จ
.
1. ความสำเร็จแบบ Aristotelian:
อริสโตเติลมองว่าความสำเร็จคือการบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง และการดำเนินชีวิตตามคุณธรรม
.
เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ - ความสำเร็จคือการเบ่งบานเต็มที่ตามธรรมชาติของเรา
.
2. ความสำเร็จแบบ Utilitarian:
John Stuart Mill เสนอว่าความสำเร็จควรวัดจากการสร้างประโยชน์สุขให้แก่คนจำนวนมากที่สุด
.
เปรียบเสมือนดวงดาวที่ส่องสว่าง - ยิ่งเราสว่าง ยิ่งสามารถส่องแสงนำทางให้ผู้อื่น
.
3. ความสำเร็จแบบ Existential:
Simone de Beauvoir มองว่าความสำเร็จคือการสร้างตัวตนผ่านการเลือกและการกระทำอย่างอิสระ
.
เหมือนการเปลี่ยนแปลงของผีเสื้อ - เราสร้างตัวเองใหม่ทุกวันผ่านการเลือกและการกระทำ
.
4. ความสำเร็จแบบ Taoist:
เต๋ามองว่าความสำเร็จคือการดำเนินชีวิตสอดคล้องกับ "เต๋า" หรือวิถีธรรมชาติ โดยไม่ฝืนหรือพยายามควบคุมมากเกินไป
.
เปรียบเสมือนใบไม้ที่ลอยไปตามสายลม - ความสำเร็จคือการเคลื่อนไหวอย่างราบรื่นไปกับกระแสของชีวิต
.
การพิจารณามุมมองที่หลากหลายเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจว่า Eudaimonia ไม่ใช่แนวคิดตายตัว แต่เป็นการค้นหาความสมดุลและความหมายที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ในการแสวงหา Eudaimonia เราอาจผสมผสานแนวคิดต่างๆ เพื่อสร้างนิยามความสุขและความสำเร็จที่สอดคล้องกับค่านิยมและเป้าหมายของเราเอง
.
.
ในการแสวงหา Eudaimonia คำถามสำคัญที่เราควรถามตัวเองอยู่เสมอคือ:
.
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย?
ความสุขที่แท้จริงสำหรับเราคืออะไร?
เราจะนิยามความสำเร็จในชีวิตอย่างไร?
เราจะสร้างสมดุลระหว่างความสุขส่วนตัวและการทำประโยชน์ให้สังคมได้อย่างไร?
.
การตอบคำถามเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย และคำตอบอาจเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงชีวิตของเรา...
.
แต่ถ้าคุณขี้เกียจคิดเยอะ แอดมีสูตรลัด!
.
"แค่กด Like & Share โพสต์นี้ คุณก็จะได้รับพลังแห่ง Eudaimonia ภายใน 24 ชั่วโมง! (ผลอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เงื่อนไขเป็นไปตามกฎแห่งกรรม และข้อกำหนดของ Facebook)"
.
.
------------------------------
.
[ Nihilism: อีกด้านของเหรียญ ]
.
.
ในการสำรวจแนวคิด Eudaimonia เราไม่อาจละเลยการพิจารณา Nihilism หรือลัทธิสุญนิยม ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นขั้วตรงข้าม แต่การทำความเข้าใจ Nihilism อย่างลึกซึ้งอาจเผยให้เห็นความเชื่อมโยงที่น่าสนใจ
.
ความหมายและรูปแบบของ Nihilism
.
Nihilism มาจากภาษาละติน "nihil" แปลว่า "ไม่มีอะไร" แบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ:
.
1. Existential Nihilism : เชื่อว่าชีวิตไม่มีความหมายหรือจุดประสงค์ที่แท้จริง
2. Moral Nihilism : ปฏิเสธการมีอยู่ของคุณค่าทางศีลธรรมที่เป็นสากล
3. Epistemological Nihilism : สงสัยความสามารถของมนุษย์ในการรู้ความจริงหรือความรู้ที่แน่นอน
.
มุมมองเชิงบวกของ Nihilism
.
1. การตั้งคำถามกับสมมติฐาน : กระตุ้นให้เราวิเคราะห์ความเชื่อและค่านิยมอย่างลึกซึ้ง
2. อิสรภาพทางความคิด : เปิดโอกาสให้กำหนดความหมายและคุณค่าของตนเอง
3. การยอมรับความไม่แน่นอน : ช่วยให้เรายอมรับธรรมชาติที่ไม่แน่นอนของชีวิต
4. แรงผลักดันสู่การสร้างสรรค์ : กระตุ้นให้สร้างความหมายของชีวิตด้วยตนเอง
.
มุมมองเชิงลบของ Nihilism
.
1. ความรู้สึกสิ้นหวัง : อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า
2. การขาดแรงจูงใจ : อาจทำให้ขาดแรงขับในการพัฒนาตนเอง
3. ความเสี่ยงต่อพฤติกรรมอันตราย : การปฏิเสธคุณค่าทางศีลธรรมอาจนำไปสู่การกระทำที่เป็นอันตราย
4. การแยกตัวจากสังคม : อาจนำไปสู่ความรู้สึกแปลกแยกและโดดเดี่ยว
.
.
ความเชื่อมโยงระหว่าง Nihilism และ Eudaimonia
.
แม้จะดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่ Nihilism และ Eudaimonia มีจุดเชื่อมโยงที่น่าสนใจ:
.
1. การตั้งคำถามนำไปสู่การค้นพบ : Nihilism กระตุ้นให้ตั้งคำถาม ซึ่งอาจนำไปสู่การค้นพบความหมายที่แท้จริง สอดคล้องกับ Eudaimonia ที่เน้นการพัฒนาตนเอง
.
2. การสร้างความหมายด้วยตนเอง : ทั้งสองแนวคิดเน้นการสร้างความหมายให้กับชีวิตด้วยตนเอง แทนที่จะยึดติดกับค่านิยมภายนอก
.
3. การยอมรับความไม่แน่นอน : ทั้งสองส่งเสริมการยอมรับธรรมชาติที่ไม่แน่นอนของชีวิต นำไปสู่การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ
.
4. การพัฒนาปัญญา : การเผชิญหน้ากับ Nihilism อาจนำไปสู่ความเข้าใจชีวิตที่ลึกซึ้งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของ Eudaimonia
.
Nihilism เปรียบเสมือนกระจกดำที่สะท้อนให้เห็นความว่างเปล่าของชีวิต แต่ในความมืดนั้น เราอาจค้นพบแสงสว่างของความหมายที่แท้จริง การเข้าใจทั้ง Nihilism และ Eudaimonia อย่างสมดุลสามารถนำไปสู่มุมมองชีวิตที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
.
.
--------------------------
.
[ เบาะแสของการค้นพบ Eudaimonia ของคุณ ]
.
.
มันอาจอยู่ใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด
.
ลองสังเกตความรู้สึกอิ่มเอมใจ เมื่อคุณได้ช่วยคุณยายข้างบ้านยกของหนัก หรือตอนที่เพื่อนร่วมงานยิ้มกว้างหลังคุณช่วยแก้ปัญหาให้เขา นั่นอาจเป็นเบาะแสชิ้นแรก
.
สังเกตช่วงเวลาที่คุณรู้สึกเพลิดเพลินจนลืมเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนวาดรูป เล่นดนตรี หรือแม้แต่จัดบ้าน ความรู้สึกที่งานและตัวคุณหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว นั่นอาจเป็นเบาะแสชิ้นที่สอง
.
เมื่อคุณเผชิญความท้าทายและตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะยากลำบาก แล้วรู้สึกภูมิใจในตัวเอง นั่นก็เป็นอีกเบาะแสหนึ่ง
.
Eudaimonia อาจซ่อนอยู่ในรอยยิ้มที่คุณมีให้กับตัวเองในกระจก หลังจากที่คุณพยายามอย่างหนักและเห็นความก้าวหน้า แม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ
.
แต่เหนือสิ่งอื่นใด Eudaimonia มักจะปรากฏในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ลูกวิ่งเข้ามากอด หรือเมื่อคุณได้ทำในสิ่งที่รัก
.
และเมื่อคุณรู้สึกถึงความสมบูรณ์ในชีวิตของคุณ ราวกับว่า..
.
คุณบรรลุ Eudaimonia แล้ว! คุณสามารถเปิด Master Class สอนคนอื่นว่า "วิธีค้นหา Eudaimonia ในยุค 4.0" ทำอย่างไร ในราคาเพียงคอร์สละ 9,999 บาท! และถ้าสมัครวันนี้ รับฟรี! E-book "10 เคล็ดลับพิชิต Eudaimonia แบบเศรษฐีเงินล้าน" มูลค่า 1,999 บาท!
.
เพราะนี่แหละครับ Eudaimonia ในยุคทุนนิยมที่ความสุขและความสำเร็จวัดกันที่ยอดเงินในบัญชีและจำนวน followers บน Instagram!
.
(หมายเหตุ: บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความหมายของ Eudaimonia โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
.
.
--------------------------------
.
[ บทส่งท้าย ]
.
.
ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าและข้อมูลมากมาย การเข้าใจ Eudaimonia อาจเป็นเข็มทิศที่นำทางเราผ่านมหาสมุทรแห่งความสับสนและไร้ทิศทาง
.
"ชีวิตที่รุ่งเรือง เหมือนการปีนเขาสูงชัน
บางจุดลื่น บางช่วงหกล้ม แต่วิวข้างบนนั้นสวยล้ำ
ระหว่างทาง อย่าลืมแวะถ่ายรูปกับความสุขเล็กๆ
และเมื่อถึงยอด คุณจะพบว่า...
แย่แล้ว! มือถือแบตหมด
.
.
แต่นั่นแหละ คือความงามของการเดินทาง ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นทุกก้าวที่เราได้เรียนรู้ เติบโต และค้นพบตัวเอง
.
Eudaimonia ไม่ใช่จุดหมายที่ตายตัว แต่เป็นการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด และดังที่อริสโตเติลกล่าวไว้ "ความสุขขึ้นอยู่กับตัวเราเอง"
.
.
.
.
บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies
.