เติมทักษะให้ถึงขีดสุด แล้วความฝันจะตามมาเอง (So Good They Can’t Ignore You) เขียนโดย Cal Newport

เติมทักษะให้ถึงขีดสุด แล้วความฝันจะตามมาเอง (So Good They Can’t Ignore You) เขียนโดย Cal Newport
.
“คุณกล้าที่จะทิ้งความฝันไว้เบื้องหลังเพื่อสร้างทักษะที่ไม่มีวันพังทลายหรือไม่?”
.
Cal Newport ยืนอยู่บนเวที สายตาของเขากวาดผ่านผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มองเขาด้วยความหวังเหมือนดวงดาวที่แสงสลัว ชายหนุ่มหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาเต็มไปด้วยความฝันที่หวังจะเปลี่ยนโลก แต่ Newport รู้ดีกว่าใครว่าฝันเพียงอย่างเดียว ไม่เคยสร้างตำนานที่แท้จริง
.
ในขณะที่คนส่วนใหญ่ถูกดึงดูดด้วยคำว่า “ความหลงใหล” คุณจะพบว่าความฝันที่ไร้รากนั้นเบาบางเหมือนหมอกในยามเช้า หากคุณจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ คุณต้องลงลึก สร้างทักษะที่เป็นฐานรากที่แข็งแรง ทักษะที่จะทำให้คุณ "ดีจนใครก็ไม่อาจมองข้าม" ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงและสิ่งลวงตา
.
“เพราะความฝันนั้นง่าย แต่ทักษะคือสิ่งที่ยากและแท้จริง”
.
.
------------------------------------------------
.
Cal Newport ยืนอยู่บนเวที มองดูผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 20 ชีวิตที่นั่งจ้องเขาตาไม่กะพริบ บางคนกำโทรศัพท์แน่น รอกดถ่ายรูปไอเดียเจ๋งๆ บางคนเตรียมจดทุกคำพูดใน iPad ราคาแพง (ที่อาจจะยังผ่อนไม่หมด)
.
"ทุกคนในที่นี้อยากรวย ผมรู้" Newport เอ่ยขึ้น รอยยิ้มมุมปากปรากฏ "แต่รู้ไหม ผมเห็นคนที่อยากรวยมาเยอะ... เยอะจนผมแทบจะเปิดร้านขายความฝันได้แล้ว"
.
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในห้องชั้น 38 ตึกใจกลางกรุงเทพฯ จากมุมนี้มองเห็นไฟรถติดเป็นทางยาวเหยียดบนถนนสาทร เหมือนแถวคนรอความสำเร็จที่ไม่มีวันสิ้นสุด
.
"แต่วันนี้ผมไม่ได้มาขายความฝัน" เขาหยิบรีโมทขึ้นมากดฉายภาพบนจอ "ผมมาบอกว่าทำไมคนที่ฝันเหมือนกัน ถึงได้ผลลัพธ์ต่างกัน 180 องศา"
.
บนจอปรากฏภาพ Jeff Bezos ในชุดสูทสมัยทำงาน Wall Street
.
"นี่คือ Bezos ตอนที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ดูดีนะ ผมยังอยู่ครบ" เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง
.
"แต่รู้ไหม ตอนนั้นเขาไม่ได้นั่งฝันว่าจะเป็นมหาเศรษฐี เขานั่งวิเคราะห์ข้อมูลการเติบโตของอินเทอร์เน็ตทั้งคืน จนเมียบ่นว่าแต่งงานกับสเปรดชีตไปแล้ว"
.
Newport เดินลงจากเวที เข้าไปในวงผู้ฟัง
.
"ลองนึกภาพนะครับ วันที่ Bezos บอกครอบครัวว่าจะลาออกจากงานเงินเดือนแสน มาขายหนังสือออนไลน์ ในยุคที่คนยังใช้ Windows 95 กัน... คุณคิดว่าพ่อแม่เขาจะว่ายังไง?"
.
"คงบอกว่าบ้าไปแล้ว!" เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น
.
"ใช่! แต่นี่แหละครับความแตกต่าง - คนทั่วไปมองว่ามันบ้า แต่ Bezos มองเห็นตัวเลข มองเห็นโอกาส เพราะเขามีสิ่งที่เรียกว่า 'ทุนทางทักษะ' (Skill Capital)"
.
.
-------------------------------------
.
[ ทุนทางทักษะของคนธรรมดาที่กลายเป็นตำนาน ]
.
.
"ดูนะครับ ทุกคนคิดว่า Steve Jobs เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เกิด รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเขาเริ่มยังไง?" Newport วาดภาพการ์ตูนง่ายๆ บนกระดาน
.
"เขาเริ่มจากการเป็น 'คนขายของมือสอง' ที่เก่งที่สุดในย่าน รับซื้อเครื่องเกมเก่าจากญี่ปุ่น มาแกะ ศึกษา และขายในราคาที่แพงกว่า... นี่คือจุดเริ่มต้นของ Apple ครับ ไม่ใช่วิสัยทัศน์อะไรที่สวยหรู"
.
Newport หยิบ iPhone ขึ้นมา
.
"เห็น iPhone เครื่องนี้ไหม? ทุกคนชอบพูดถึงมันว่าเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลก แต่รู้ไหมว่าก่อนจะมาเป็น iPhone Jobs ต้องล้มเหลวมากี่ครั้ง?"
.
เขาฉายภาพ Newton บน PowerPoint - เครื่อง PDA รุ่นแรกของ Apple ที่ล้มเหลวยับเยิน
.
"นี่ครับ Newton ปี 1993 - พีดีเอที่แพงที่สุด ใช้งานยากที่สุด และล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์" เสียงหัวเราะดังลั่นห้อง
.
"แต่รู้อะไรไหม? Jobs ไม่ได้มองว่ามันคือความล้มเหลว เขามองว่ามันคือ 'ค่าเทอมราคาแพงที่จ่ายให้มหาวิทยาลัยชีวิต'"
.
Newport เดินไปที่กระดาน เขียนต่อ:
.


บทเรียนราคาแพงของตำนาน


.
1. ความล้มเหลวคือทุนทางปัญญา
"Jobs เรียนรู้จาก Newton ว่าผู้บริโภคไม่ได้ต้องการอุปกรณ์ที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ต้องการอุปกรณ์ที่ทำบางอย่างได้ดีที่สุด... 14 ปีต่อมา iPhone ถือกำเนิด"
.
2. ทุนทางทักษะไม่มีวันสูญเปล่า
"Mark Zuckerberg เคยทำโปรเจ็กต์ล้มเหลวในมหา'ลัยชื่อ 'Course Match' - เว็บแชร์โน้ตเรียน ไม่มีใครใช้เลยสักคน... แต่เขาได้เรียนรู้การเขียนโค้ดที่ทำให้คนเชื่อมต่อกันได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Facebook"
.
Newport หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ควักธนบัตร 1,000 บาทชูขึ้น
.
"เห็นแบงก์พันนี้ไหม? ถ้าผมฉีกมันตอนนี้ มันก็หมดค่า... แต่ทุนทางทักษะไม่มีวันฉีกได้ ไม่มีวันหมดค่า และไม่มีใครขโมยไปได้"
.
เขาหันไปมองผู้ฟังคนหนึ่งที่กำลังจดบันทึกในสมุดราคาแพง
.
"คุณครับ... ใช่ คุณที่กำลังจดใน Moleskine สมุดเล่มละพันกว่าบาท" เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น "บอกผมหน่อย คุณอยากทำธุรกิจอะไร?"
.
"ผมอยากเปิดร้านกาแฟครับ" ชายหนุ่มตอบเสียงสั่น
.
"อ๋อ... งั้นผมจะเล่าให้ฟังว่าทำไม Howard Schultz ถึงประสบความสำเร็จกับ Starbucks ในขณะที่ร้านกาแฟอื่นๆ ล้มหายตายจากไปนับพันร้าน..."
.
Newport พ่นลมหายใจเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด
.
"คุณรู้ไหม ก่อน Howard Schultz จะสร้าง Starbucks เขาเคยเป็นเซลล์ขายเครื่องชงกาแฟ เดินเข้าออกร้านกาแฟวันละ 30-40 ร้าน"
.
Newport หยิบแก้วกาแฟดำที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
.
"แต่เขาไม่ได้แค่เดินเข้าไปขาย... เขาสังเกตทุกอย่าง" Newport จิบกาแฟ "ตั้งแต่วิธีที่ลูกค้าสั่งกาแฟ วิธีที่บาริสต้าชง ไปจนถึงมุมที่คนชอบนั่ง..."
.
เขาวางแก้วลง เดินไปที่กระดาน:
.


ทุนทางทักษะของ Howard Schultz
.


"1. ทักษะการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค"
Newport เขียนพลางเล่า "วันหนึ่งเขาสังเกตว่า ลูกค้าที่เข้ามาในร้านกาแฟไม่ได้ต้องการแค่กาแฟ... พวกเขาต้องการ 'บ้านหลังที่สาม' - ที่ที่ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่ที่ทำงาน แต่เป็นที่ที่พวกเขารู้สึกเป็นส่วนตัวและสบายใจ"
.
"2. ทักษะการแก้ปัญหาที่คนอื่นมองไม่เห็น"
"รู้ไหมว่าทำไมกาแฟ Starbucks ถึงได้รสชาติเหมือนกันทุกสาขา? เพราะตอนเป็นเซลล์ Schultz เห็นปัญหาว่าร้านกาแฟแต่ละร้านชงรสชาติไม่เหมือนกัน เขาเลยคิดระบบมาตรฐานการชงขึ้นมา"
.
Newport หันไปทางชายหนุ่มที่อยากเปิดร้านกาแฟ
.
"แล้วคุณล่ะ? ถ้าจะเปิดร้านกาแฟ คุณมีทุนทางทักษะอะไรบ้าง? หรือแค่มีเงินก้อนกับความฝันลอยๆ?"
.
ห้องเงียบกริบ
.
"ผมจะบอกอะไรให้..." Newport เดินไปหยิบถุงเมล็ดกาแฟจากกระเป๋า
.
"นี่คือเมล็ดกาแฟจากร้านเล็กๆ ในเชียงราย ที่ขายดีจนต้องจองคิวข้ามเดือน รู้ไหมว่าเจ้าของร้านเคยทำอะไรมาก่อน?"
.
ทุกคนส่ายหน้า
.
"เขาเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านกาแฟมา 5 ปี... แต่ที่แตกต่างคือ ทุกครั้งที่มีลูกค้าบ่นเรื่องรสชาติกาแฟ เขาจะจดและกลับไปทดลองชงใหม่ที่บ้านจนกว่าจะเพอร์เฟ็กต์"
.
Newport เทเมล็ดกาแฟลงบนโต๊ะ
.
"นี่แหละครับ ความแตกต่างระหว่างคนที่แค่ 'มีร้านกาแฟ' กับคนที่จะกลายเป็น 'ตำนานในวงการกาแฟ'... ทุนทางทักษะ ไม่ใช่ทุนในกระเป๋า"
.
Newport เก็บเมล็ดกาแฟกลับใส่ถุง พลางหันไปมองนักธุรกิจหนุ่มสาวในห้อง
.
"รู้ไหม ทุกวันนี้ผมเห็นคนรุ่นใหม่เปิดธุรกิจกันเยอะมาก... เยอะจนผมนึกถึงรถติดบนถนนเมื่อกี้" เขาชี้ไปที่หน้าต่าง
.
"ทุกคันอยากไปถึงจุดหมาย แต่ส่วนใหญ่ติดอยู่กับที่"
.
เขาหยิบ iPad ขึ้นมา เปิดภาพ
.
"ดูนี่สิครับ กรุงเทพมีร้านกาแฟเปิดใหม่เดือนละ 7-8 ร้าน แต่ปิดไป 5-6 ร้าน ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"
.
"เพราะการแข่งขันสูงครับ!" เสียงหนึ่งตะโกน
.
"ไม่ใช่!" Newport ตอบเสียงดัง "เพราะพวกเขาสร้างธุรกิจบนความฝัน แทนที่จะสร้างบนทุนทางทักษะ"
.
เขาวาดตารางใหม่บนกระดาน:
.
สูตรล้มเหลวในธุรกิจ
ความฝัน + เงิน + ทำเลดี = ธุรกิจที่ตายเร็ว
.
.
สูตรความสำเร็จที่ยั่งยืน:
ทุนทางทักษะ + การแก้ปัญหาจริง + ระบบที่ทำซ้ำได้ = ธุรกิจที่เติบโต

.


"ลองดู Blue Bottle Coffee สิครับ" Newport ฉายภาพร้านกาแฟสไตล์มินิมอลบนจอ
.
"James Freeman เริ่มจากการคั่วกาแฟในโรงรถ ขายทีละถุงในตลาดนัด... แต่เขามีทุนทางทักษะที่ไม่เหมือนใคร - เขาเคยเป็นนักดนตรีคลาสสิก"
.
"นักดนตรี!?" เสียงฮือฮาดังขึ้นในห้อง
.
"ใช่ครับ และนั่นคือความแตกต่าง - เขาใช้ความเข้าใจเรื่องจังหวะ โน้ตดนตรี มาสร้างสูตรการคั่วกาแฟที่แม่นยำเหมือนการเล่นดนตรีคลาสสิก... จนวันนี้ Nestlé ซื้อกิจการไปด้วยมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์"
.
Newport หยุดพูด หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบอีกครั้ง
.
"คุณรู้ไหม ทำไมผมถึงดื่มกาแฟดำ?"
.
"..."
.
"เพราะมันเหมือนความจริงในธุรกิจ - มันขม แต่มันทำให้คุณตื่น... ตื่นจากความฝันลมๆ แล้งๆ มาเจอความจริงที่ว่า..."
.
"...ความจริงที่ว่า" Newport จิบกาแฟคำสุดท้าย "ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่คุณฝันใหญ่แค่ไหน แต่อยู่ที่คุณตื่นมาทำอะไรบ้าง"
.
เขาเดินไปที่ผนังกระจกใสทั้งบาน มองวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน
.
"ดูไฟในตึกพวกนั้นสิครับ" เขาชี้ออกไป "หลายคนคิดว่าพวกเขากำลังทำงานดึก... แต่จริงๆ แล้ว พวกเขากำลังสร้างทุนทางทักษะ"
.
Newport หันกลับมา สายตาเข้มขึ้น
.
"Phil Knight ผู้ก่อตั้ง Nike รู้ไหมว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จ ในขณะที่แบรนด์รองเท้ากีฬาอื่นๆ หายไปกับสายลม?"
.
เขาเปิดภาพรองเท้า Nike รุ่นแรกๆ บนจอ
.
"ก่อนจะเริ่ม Nike เขาเป็นนักวิ่งระดับมหาวิทยาลัย ทุกเช้าเขาวิ่ง ทุกคืนเขาแกะรองเท้าวิ่งออกมาดู... จนรู้ว่าทำไมรองเท้าวิ่งในตลาดถึงใช้ไม่ได้เรื่อง"
.
"นั่นไง! เขามีทุนทางทักษะจากการเป็นนักกีฬา!" เสียงหนึ่งดังขึ้น
.
"ใช่... แต่นั่นแค่ครึ่งเดียว" Newport ยิ้ม "อีกครึ่งมาจากตอนที่เขาเรียนบัญชีและทำงานเป็นนักวิเคราะห์การเงิน เขาเข้าใจตัวเลข เข้าใจห่วงโซ่อุปทาน... นี่คือทุนทางทักษะที่ทำให้ Nike ไม่ใช่แค่แบรนด์เท่ๆ แต่เป็นธุรกิจที่ทำกำไรมหาศาล"
.
Newport หยิบรองเท้า Nike ที่เขาใส่อยู่ขึ้นมาดู
.
"ทุกครั้งที่ผมใส่รองเท้าคู่นี้ ผมไม่ได้เห็นแค่สินค้าดีไซน์เท่... ผมเห็นบทเรียนธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ - การผสมผสานทุนทางทักษะที่แตกต่างเข้าด้วยกัน จนเกิดเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเลียนแบบได้"
.
.
----------------------------
.
[ สมการความสำเร็จที่แท้จริง ]
.
.
ทักษะที่แตกต่าง + ทักษะที่เชี่ยวชาญ = จุดยืนที่ไม่มีใครแย่งได้
.
"และนี่คือความจริงที่น่ากลัวที่สุด..." Newport หยุดชั่วครู่
.
Newport เดินช้าๆ กลับขึ้นเวที สายตากวาดมองผู้ฟังทุกคน
.
"ความจริงที่น่ากลัวที่สุดก็คือ..." เขาหยุดนิดหนึ่ง "99% ของคนในห้องนี้จะไม่ทำตามสิ่งที่ผมพูด"
.
เสียงฮือฮาดังขึ้น บางคนหัวเราะเบาๆ อย่างประหม่า
.
"ไม่ใช่เพราะคุณไม่เชื่อผม..." Newport ยิ้มบางๆ "แต่เพราะการสร้างทุนทางทักษะมันไม่เซ็กซี่พอ มันไม่ได้ทำให้คุณดูเท่บน Instagram มันไม่ได้ทำให้คุณได้ถ่ายรูปกับรถหรู"
.
เขาหยิบนาฬิกาเรือนเก่าขึ้นมา
.
"รู้ไหมว่าทำไม Warren Buffett ถึงยังใช้ Nokia รุ่นฝาพับ? ทำไม Mark Zuckerberg ถึงใส่เสื้อเชิ้ตสีเทาตัวเดิมทุกวัน?"
.
"เพราะพวกเขาประหยัดครับ!" เสียงหนึ่งตะโกน
.
"ไม่ใช่" Newport ส่ายหน้า "เพราะพวกเขารู้ว่าเวลาและพลังงานในแต่ละวันมีจำกัด แทนที่จะเสียเวลาเลือกเสื้อผ้า เลือกมือถือ พวกเขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการพัฒนาทุนทางทักษะ"
.
เขาชี้ไปที่ผู้ชายคนหนึ่งในห้องที่กำลังจดบันทึกด้วย iPad Pro รุ่นล่าสุด
.
"คุณครับ iPad ของคุณสวยมาก แต่รู้ไหมว่า Steve Jobs ใช้อะไรจดไอเดียตอนสร้าง Apple?"
.
ชายคนนั้นส่ายหน้า
.
Newport หยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ ราคาไม่กี่บาทออกมา
.
"สมุดแบบนี้ ราคา 20 บาท... แต่สิ่งที่เขาจดลงไป มันเปลี่ยนโลก เพราะเขาไม่ได้ลงทุนกับเครื่องมือ แต่ลงทุนกับสิ่งที่อยู่ในหัว"
.
.
-------------------------------
.
[ กฎทองของการสร้างตำนานธุรกิจ ]
.
.
อย่าลงทุนกับสิ่งที่คนอื่นซื้อได้
จงลงทุนกับสิ่งที่คนอื่นลอกเลียนไม่ได้
.
Newport ยืนนิ่งกลางเวที ในมือถือ MacBook เครื่องเก่า
.
"ความแตกต่างระหว่างผู้ประกอบการธรรมดากับตำนาน ไม่ได้อยู่ที่พวกเขามีอะไรมากกว่ากัน..." เขาวางแล็ปท็อปลงช้าๆ "แต่อยู่ที่พวกเขากล้าที่จะ 'ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ'"
.
สายตาของเขากวาดมองไปรอบห้อง "Sam Walton ผู้ก่อตั้ง Walmart รู้ไหมว่าเขาทำอะไรตอนเริ่มต้น? เขาขับรถ 500 ไมล์ไปดูร้านค้าปลีกคู่แข่งทุกสัปดาห์ จดทุกรายละเอียด วิเคราะห์ทุกกลยุทธ์ ในขณะที่คู่แข่งนั่งสบายในออฟฟิศ"
.
เขาเดินไปที่กระดาน เขียนต่อ:
.
กฎเหล็กของการสร้างทุนทางทักษะ:
.
"1. ความเชี่ยวชาญคือสกุลเงินที่แท้จริง"
"ในโลกที่ทุกคนอยากรวยเร็ว มีแค่คนที่ยอมเรียนรู้ช้าๆ แต่ลึกซึ้งเท่านั้นที่จะอยู่รอด"
.
"Bill Gates ใช้เวลา 10,000 ชั่วโมงเขียนโค้ดตั้งแต่อายุ 13 ในขณะที่เพื่อนๆ กำลังเล่นเกม... นั่นคือทุนทางทักษะที่ไม่มีใครซื้อได้"
.
"2. จงหาจุดตัดที่ไม่มีใครมอง"
"Mark Zuckerberg ไม่ได้เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เก่งที่สุด แต่เขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจทั้งโค้ดและจิตวิทยาของนักศึกษามหาวิทยาลัย... นั่นคือจุดตัดที่สร้าง Facebook"
.
Newport หยุดพูด หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
.
"ทุกคนในห้องนี้มีโทรศัพท์ที่ทรงพลังพอจะสร้างธุรกิจพันล้านได้" เขายกมือถือขึ้นสูง "แต่ส่วนใหญ่ใช้มันเพื่อดูความสำเร็จของคนอื่น แทนที่จะสร้างความสำเร็จของตัวเอง"
.
.
--------------------------------------
.
[ Self Determination Theory: สามเสาหลักของแรงจูงใจ ]
.
.
"1. Autonomy - ความเป็นตัวของตัวเอง"
"Ray Kroc ไม่ได้คิดค้น McDonald's แต่เขาเห็นระบบที่คนอื่นมองข้าม... เขาสร้างแฟรนไชส์ที่ให้อิสระในกรอบที่ชัดเจน นั่นคือความเป็นตัวของตัวเองที่สร้างสรรค์"
.
"2. Competence - ความเชี่ยวชาญ"
"Walt Disney ถูกไล่ออกจากหนังสือพิมพ์เพราะ 'ขาดความคิดสร้างสรรค์' แต่เขาไม่ยอมแพ้ เขาฝึกวาดการ์ตูนทุกคืน จนกลายเป็นผู้สร้างอาณาจักรความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก"
.
"3. Relatedness - การเชื่อมโยง"
"Richard Branson ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกธุรกิจที่เขาทำ แต่เขาเข้าใจการเชื่อมโยงคนที่ใช่เข้าด้วยกัน... Virgin Group ไม่ใช่บริษัทที่รู้ทุกเรื่อง แต่เป็นบริษัทที่รู้ว่าใครรู้เรื่องอะไรดีที่สุด"
.
Newport หยุดชั่วครู่ มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นแสงไฟระยิบระยับของตึกระฟ้า
.
"รู้ไหมครับ ทำไม Elon Musk ถึงทิ้งธุรกิจ PayPal ที่ทำเงินมหาศาล เพื่อมาทำ SpaceX ที่คนส่วนใหญ่มองว่าบ้า?"
.
เขาหันกลับมามองผู้ฟัง
.
"เพราะเขาเข้าใจความจริงข้อหนึ่ง - ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้วัดที่เงินในบัญชี แต่วัดที่ผลกระทบที่คุณสร้างให้โลก"
.
.
-------------------------------
.
[ The Law of Mission: กฎของพันธกิจที่ยิ่งใหญ่ ]
.
.
"1. Think Small, Act Big"
"Jeff Bezos ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการบอกว่าจะเป็น 'ร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก' เขาเริ่มจากการขายหนังสือออนไลน์... แต่ทุกๆ วัน เขาคิดถึงระบบที่จะรองรับการเติบโตในอนาคต"
.
Newport เดินไปที่กระดาน เขียนประโยคใหม่:
.
สมการของพันธกิจที่ยิ่งใหญ่:
.
ทักษะที่เชี่ยวชาญ + ปัญหาที่โลกต้องการ = พันธกิจที่ไม่มีวันตาย
.
.
"2. The Adjacent Possible"
"Larry Page และ Sergey Brin ไม่ได้คิดจะสร้าง Google ตั้งแต่แรก พวกเขาแค่แก้ปัญหาการค้นหาข้อมูลในมหาวิทยาลัย... แต่พวกเขาเห็น 'ความเป็นไปได้ที่อยู่ถัดไป' ตลอดเวลา"
.
"3. The Law of Remarkability"
"ทำไม Tesla ถึงไม่ต้องลงโฆษณาแม้แต่บาทเดียว?" Newport ถาม "เพราะพวกเขาสร้างสิ่งที่ 'น่าจดจำ' มากพอที่คนอยากจะพูดถึงมันเอง"
.
.
--------------------------------
.
[ หลักการสร้างธุรกิจที่เปลี่ยนโลก ]
.
.
"1. ความกล้าที่จะแตกต่าง"
"Howard Schultz ถูกปฏิเสธจากธนาคาร 242 ครั้งก่อนจะได้เงินทุนสร้าง Starbucks... แต่เขาไม่เปลี่ยนวิสัยทัศน์ เพราะเขารู้ว่าโลกต้องการ 'บ้านหลังที่สาม' ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ"
.
"2. ความอดทนที่จะรอคอย"
"Reed Hastings ส่ง DVD ทางไปรษณีย์อยู่ 10 ปี ก่อนที่ Netflix จะกลายเป็นบริการสตรีมมิ่ง... เขารู้ว่าเทคโนโลยียังไม่พร้อม แต่เขาพร้อมที่จะรอ"
.
"3. ความกล้าที่จะเริ่มใหม่"
"Steve Jobs โดนไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองสร้าง... แต่เขาใช้เวลานั้นสร้าง Pixar จนประสบความสำเร็จ และกลับมากู้ Apple จากการล้มละลาย"
.
Newport หยุดพูด มองนาฬิกา
.
"เหลือเวลาอีก 5 นาที ผมจะบอกความลับสุดท้ายที่สำคัญที่สุด..."
.
Newport มองไปที่ผู้ฟังทุกคน สีหน้าจริงจัง
.
"ความลับสุดท้ายนี้..." เขาพูดเสียงเบาลง "ผมไม่เคยบอกใครมาก่อน เพราะมันเจ็บปวดเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่จะรับได้"
.
เขาเดินไปที่กระดาน ลบทุกอย่างที่เขียนไว้จนหมด เหลือแค่พื้นที่ว่างสีดำ
.
"ทุกคนในห้องนี้มีความฝันใหญ่... แต่รู้ไหมอะไรคือสิ่งที่แย่กว่าความล้มเหลว?"
.
ห้องเงียบกริบ
.
"สิ่งที่แย่ที่สุดคือการมีชีวิตอยู่แบบ 'เกือบจะ'"
.
เขาเริ่มเขียนบนกระดานด้วยตัวอักษรใหญ่:
.
.
--------------------------------------
.
[ กฎข้อสุดท้าย: The Law of Now or Never ]
.
.
"ผมเคยสัมภาษณ์มหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จมากว่า 100 คน" Newport เล่าต่อ "รู้ไหมว่าพวกเขามีอะไรเหมือนกันหมด?"
.
"เงินครับ?" เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น เสียงหัวเราะดังทั่วห้อง
.
"ไม่ใช่..." Newport ส่ายหน้า "พวกเขาทุกคนมี 'จุดที่ไม่มีทางกลับ' - วันที่พวกเขาตัดสินใจว่า 'พอกันที กับการผัดวันประกันพรุ่ง'"
.
เขาเขียนต่อ:
.
สามคำถามที่เปลี่ยนชีวิต:
.
"1. ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วเมื่อไหร่?"
"Mark Cuban เริ่มธุรกิจแรกตอนไม่มีอะไรเลย นอนบนพื้นในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่กับเพื่อน 6 คน... เขาไม่รอให้พร้อม เขาทำให้มันพร้อม"
.
"2. ถ้าไม่ใช่เรา แล้วจะเป็นใคร?"
"Sara Blakely ไม่มีความรู้เรื่องแฟชั่น ไม่มีเงินทุน... แต่เธอมีปัญหาที่ต้องการแก้ไข และเธอรู้ว่าถ้าเธอไม่ทำ จะไม่มีใครทำ"
.
"3. ถ้าไม่ทำจริง แล้วจะรู้ได้ยังไง?"
"Phil Knight สั่งรองเท้าจากญี่ปุ่นมาขายจากท้ายรถ ก่อนที่จะกลายเป็น Nike... เขาไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จ แต่เขารู้ว่าต้องลอง"
.
Newport หยุดพูด หยิบนาฬิกาเรือนเก่าออกมาดู
.
"ตอนนี้เป็นเวลา 21:45 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024... อีก 10 ปีข้างหน้า คุณจะจำค่ำคืนนี้ว่าเป็นคืนที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต หรือแค่อีกคืนที่คุณได้แต่ฝัน?"
.
เขาปิดไฟในห้องลงทีละดวง เหลือแค่สปอตไลท์ดวงเดียว
.
"ความจริงที่น่ากลัวที่สุดก็คือ... เวลาของคุณกำลังหมดลงทุกวินาที แต่โอกาสของคุณยังรออยู่ที่เดิม"
.
Newport เดินไปที่หน้าต่าง มองดูแสงไฟเมืองที่ระยิบระยับ
.
"รู้ไหม..." เขาพูดเบาๆ "ทุกแสงไฟที่คุณเห็นตอนนี้ เคยเป็นแค่ความฝันของใครสักคน... ทุกตึกระฟ้า เคยเป็นแค่ภาพวาดบนกระดาษ"
.
เขาหันกลับมา เปิดไฟในห้องขึ้นทีละดวง
.
"แต่มีแค่บางคนเท่านั้นที่กล้าเปลี่ยนความฝันให้เป็นความจริง และนั่นไม่ได้เกิดจากโชคชะตา"
.
Newport เดินขึ้นเวทีช้าๆ
.


บทเรียนสุดท้าย: The Ultimate Truth
.


"1. ทุกคนมีทุนทางทักษะ แต่น้อยคนที่กล้าใช้"
"Jack Ma พูดภาษาอังกฤษได้ไม่ดี ไม่เก่งคอมพิวเตอร์... แต่เขามีทักษะที่สำคัญกว่า - เขาเข้าใจว่าคนจีนต้องการอะไร และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Alibaba"
.
"2. ความกลัวที่แท้จริงไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นการไม่ได้ลอง"
"Jan Koum ผู้ก่อตั้ง WhatsApp เคยโดนปฏิเสธจาก Facebook... แต่เขาไม่ยอมแพ้ และสุดท้าย Facebook ซื้อ WhatsApp ด้วยมูลค่า 19 พันล้านดอลลาร์"
.
Newport หยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมา
.
"ในกระเป๋าใบนี้..." เขาชูขึ้น "มีรายชื่อบริษัทที่ปฏิเสธ Google ตอนเริ่มต้น มีจดหมายปฏิเสธที่ Steve Jobs ได้รับ มีภาพถ่ายร้านแรกของ Amazon ที่เป็นแค่โรงรถเล็กๆ..."
.
เขาวางกระเป๋าลง
.
"แต่ผมจะไม่เปิดให้ดู... เพราะมันไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญคือ คืนนี้ คุณจะกลับไปทำอะไร?"
.
เขาเขียนประโยคสุดท้ายบนกระดาน
.
The Legacy Formula:
.
ทักษะที่โดดเด่น + การฝึกฝนที่ลึกซึ้ง + ความกล้าที่จะแตกต่าง = ตำนานที่โลกไม่มีวันลืม

.

.

.

.

#SuccessStrategies

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

Previous
Previous

Think Faster, Talk Smarter: ฝึกศิลปะการพูดและคิดฉับไวไปกับ Matt Abrahams

Next
Next

Atomic Habits: ตำราพลิกชีวิตด้วยพลังของนิสัยเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่