สรุปหนังสือ Extreme Ownership ระเบิดความเป็นผู้นำในตัวคุณ เขียนโดย Jocko Willink & Leif Babin คู่หูนาวิกโยธินสุดแสบแห่งหน่วยซีล

สรุปหนังสือ Extreme Ownership ระเบิดความเป็นผู้นำในตัวคุณ เขียนโดย Jocko Willink & Leif Babin คู่หูนาวิกโยธินสุดแสบแห่งหน่วยซีล กับตำราที่คุณอ่านแล้วต้องวิ่งรอบบ้าน 10 รอบ ตะโกน 'ฮู่ฮ่า!' ทุกรอบ!
.
คุณเคยนั่งอ่านหนังสือภาวะผู้นำแล้วหลับคาโต๊ะไหม? ลืมภาพนั้นซะ! เพราะวันนี้ คุณกำลังจะได้พบกับหนังสือที่จะทำให้คุณผงะจนเก้าอี้หงายหลัง!
.
.
จินตนาการภาพนี้: คุณกำลังนั่งในห้องสัมมนาแสนน่าเบื่อ ผู้บรรยายกำลังพูดเรื่องภาวะผู้นำด้วยเสียงราบเรียบ... แต่แล้ว! ประตูพังเข้ามาพร้อมควันคลุ้ง!
.
สองร่างกำยำในชุดพร้อมรบกระโดดเข้ามา พร้อมตะโกนสนั่นห้อง "ตื่นได้แล้ว พวกอ่อนแอ! ถึงเวลาเรียนรู้วิธีเป็นผู้นำที่แท้จริง!"
.
Jocko และ Leif ยืนอยู่บนโต๊ะ โยนหนังสือ Extreme Ownership หรือชื่อภาษาไทยที่แปลแบบตรงๆคือ "ความเป็นเจ้าของสุดขั้ว" ใส่ผู้ฟังทีละเล่มๆ ราวกับกำลังโปรยระเบิดมือ!
.
ผู้ฟังตื่นเต้นจนตาลุกวาว บางคนถึงกับกระโดดโลดเต้น! มีเสียงตะโกนดังลั่น "เย่! ในที่สุดก็มีหนังสือภาวะผู้นำที่ไม่น่าเบื่อเสียที!"
.
นี่แหละครับคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสู่โลกแห่ง "ความเป็นเจ้าของสุดขั้ว" ที่จะทำให้คุณหัวเราะ ร้องไห้ และอยากจะกระโดดไปเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในเวลาเดียวกัน! เตรียมตัวให้พร้อม เพราะหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณอยากจะเป็นผู้นำ แม้กระทั่งในการเข้าคิวซื้อกาแฟ!
.
.
-------------------------------
.
1. [ รับผิดชอบ หรือ เตรียมตัวล้มเหลว! ]
.
ฉากเปิด: ลองนึกภาพคุณเป็นผู้นำทีมในภารกิจลับสุดยอด แต่แล้ว... ทุกอย่างก็พังพินาศ! ทีมของคุณเข้าผิดบ้าน ทำให้งานปาร์ตี้วันเกิดคุณยายวัย 90 ปีพังไม่เป็นท่า แทนที่จะจับผู้ร้าย
.
คุณจะทำยังไง? โทษลูกน้องที่อ่านแผนที่ผิด? โทษเจ้าของบ้านที่ไม่ติดป้าย "ปาร์ตี้คุณยาย ห้ามบุกเข้ามา"? หรือคุณจะยืนตัวตรงและพูดว่า "ผมขอโทษครับ นี่เป็นความผิดพลาดของผม"?
.
Jocko และ Leif บอกว่า คำตอบคือข้อสุดท้าย! การเป็นเจ้าของทุกอย่าง แม้แต่ความล้มเหลว นั่นแหละคือหัวใจของ "ความเป็นเจ้าของสุดขั้ว"
.
"ถ้าคุณโทษคนอื่น คุณก็แค่ยอมรับว่าคุณไม่มีอำนาจควบคุมสถานการณ์ แต่ถ้าคุณรับผิดชอบ คุณก็มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง!" - Jocko Willink
.
แล้วคุณรู้อะไรไหม? เมื่อคุณเริ่มรับผิดชอบทุกอย่าง คุณจะพบว่าคุณมีพลังมากกว่าที่คิด! คุณจะกลายเป็นเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง แต่แทนที่จะสวมชุดรัดรูป คุณจะสวมเกราะแห่งความรับผิดชอบ!
.
.
----------------------------
.
2. [ ไม่มีทีมที่แย่ มีแต่ผู้นำที่ห่วย ]
.
ฉากต่อมา: คุณได้รับมอบหมายให้นำทีมที่แย่ที่สุดในบริษัท ทีมที่ทุกคนเรียกว่า "กองทัพโจ๊ก" พวกเขาขี้เกียจ ไม่มีแรงจูงใจ และดูเหมือนจะชอบเล่นเกมมากกว่าทำงาน
.
คุณจะทำยังไง? บ่นกับเจ้านายว่าให้ทีมที่ไม่ดีมา? ยอมแพ้และบอกว่า "ช่างมันเถอะ พวกนี้ช่วยไม่ได้แล้ว"? หรือคุณจะมองกระจกและถามตัวเองว่า "ฉันจะเป็นผู้นำที่ดีขึ้นได้อย่างไร?"
.
Jocko และ Leif บอกว่า คำตอบคือการมองตัวเองก่อน! พวกเขาเชื่อว่าไม่มีทีมที่แย่ มีแต่ผู้นำที่ยังไม่ดีพอ
.
"ถ้าทีมล้มเหลว นั่นเป็นความผิดของผู้นำ ไม่ใช่ทีม ผู้นำต้องรับผิดชอบและหาทางแก้ไข" - Leif Babin
.
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นโค้ชทีมฟุตบอลที่แพ้ตลอด แทนที่จะด่าลูกทีม คุณเริ่มฝึกซ้อมหนักขึ้น สร้างกลยุทธ์ใหม่ และให้กำลังใจพวกเขา ไม่นานทีม "กองทัพโจ๊ก" ก็กลายเป็น "กองทัพราชสีห์" ที่น่าเกรงขาม!
.
จำไว้ว่า: ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีนำ ทีมของคุณก็จะเปลี่ยนตาม!
.
.
---------------------------
.
3. [ จงเชื่อ ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องทำ! ]
.
ฉากต่อไป: คุณได้รับคำสั่งให้นำทีมไปทำภารกิจที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เช่น การขายตู้เย็นให้กับเอสกิโม หรือการสอนแมวว่ายน้ำ
.
คุณจะทำยังไง? บอกทีมว่า "เฮ้อ พวกเราคงทำไม่ได้หรอก แต่ลองๆ ไปก่อนแล้วกัน"? หรือคุณจะยืนหยัดและพูดว่า "ฟังนะ ผมเชื่อว่าเราทำได้ และนี่คือวิธีที่เราจะทำมันสำเร็จ!"
.
Jocko และ Leif บอกว่า ถ้าคุณไม่เชื่อในภารกิจ ทีมของคุณก็จะไม่มีทางเชื่อเช่นกัน! การเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
.
"ถ้าคุณไม่เชื่อในภารกิจ คุณจะไม่มีทางทุ่มเทอย่างเต็มที่ และทีมของคุณก็จะรู้สึกได้" - Jocko Willink
.
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นกัปตันเรือที่กำลังจะพาลูกเรือฝ่าพายุ ถ้าคุณยืนบนดาดฟ้าด้วยท่าทางหวาดกลัว ลูกเรือก็จะตื่นตระหนก แต่ถ้าคุณยืนอย่างมั่นคงและตะโกนว่า "พายุแค่นี้เอง! เรากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์!" ลูกเรือของคุณก็จะพร้อมฝ่าฟันทุกอย่าง!
.
จำไว้ว่า: ความเชื่อมั่นของคุณคือเข็มทิศที่จะนำทีมไปสู่ความสำเร็จ!
.
.
----------------------------
.
4. [ วางอีโก้ไว้ที่ประตูทางเข้า ถ้าไม่อยากจบที่ประตูทางออก! ]
.
ฉากนี้: คุณเพิ่งนำทีมประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ ทุกคนกำลังฉลอง แต่แล้วมีคนมาบอกว่า "เฮ้ ไอเดียของฉันนี่แหละที่ทำให้เราชนะ!"
.
คุณจะทำยังไง? ตะโกนกลับไปว่า "ไม่ใช่! มันเป็นแผนของฉันต่างหาก!"? หรือคุณจะยิ้มและพูดว่า "ใช่ ไอเดียของคุณยอดเยี่ยมมาก และทุกคนในทีมก็ทำงานได้ดีเยี่ยม!"?
.
Jocko และ Leif บอกว่า อีโก้คือศัตรูตัวร้ายที่สุดของผู้นำที่ดี! มันทำให้คุณตาบอดและไม่ยอมรับความจริง
.
"อีโก้ทำให้คุณมองไม่เห็นจุดอ่อนของตัวเอง และปิดกั้นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา" - Leif Babin
.
ลองนึกภาพว่าอีโก้เป็นเหมือนลูกโป่งยักษ์ที่คุณแบกไว้บนหลัง ยิ่งคุณเติมลมเข้าไปมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่มันก็จะทำให้คุณเคลื่อนไหวยากขึ้น และในที่สุด... บูม! มันจะระเบิดและทำให้คุณล้มลงอย่างไม่เป็นท่า
.
แทนที่จะพองลมใส่อีโก้ ลองสละความดีความชอบให้ทีม ยอมรับข้อผิดพลาด และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น คุณจะพบว่าตัวคุณเบาขึ้น และทีมของคุณก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วย!
.
จำไว้ว่า: ถ้าคุณต้องการเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ จงถ่อมตนให้มาก!
.
.
--------------------------------
.
5. [ Cover and Move หรือจะพูดง่ายๆ ว่า "เล่นเป็นทีมซะ!" ]
.
ฉากต่อไป: คุณกำลังนำทีมในสถานการณ์วิกฤต อาจจะเป็นการต่อสู้กับเดดไลน์ที่บ้าคลั่ง หรือการจัดการกับลูกค้าที่โกรธจัด
.
คุณจะทำยังไง? ต่างคนต่างทำ? หรือคุณจะรวมพลังทีมและทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ?
.
Jocko และ Leif บอกว่า "Cover and Move" คือกุญแจสำคัญ! มันคือการทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือกัน และก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
.
"ในสนามรบ การ Cover and Move อาจหมายถึงความเป็นความตาย ในธุรกิจ มันหมายถึงความสำเร็จหรือความล้มเหลว" - Jocko Willink
.
ลองนึกภาพทีมของคุณเป็นนักเต้นในโชว์บรอดเวย์ ถ้าต่างคนต่างเต้น มันก็จะดูวุ่นวายและไม่สวยงาม แต่ถ้าทุกคนเต้นประสานกัน คอยดูจังหวะและตำแหน่งของกันและกัน โชว์ก็จะออกมาสมบูรณ์แบบ!
.
ในที่ทำงานก็เช่นกัน เมื่อแผนกต่างๆ ทำงานประสานกัน เข้าใจบทบาทของกันและกัน และคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน บริษัทก็จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว!
.
จำไว้ว่า: เล่นเป็นทีม ชนะเป็นทีม!
.
.
--------------------------------------
.
6. [ Keep It Simple, Stupid! หรือจะพูดแบบสุภาพว่า "ทำให้ง่ายไว้ ใครๆ ก็ทำได้" ]
.
ฉากนี้: คุณต้องอธิบายแผนการสำคัญให้ทีมฟัง อาจจะเป็นกลยุทธ์การตลาดใหม่ หรือวิธีการผลิตสินค้าที่ซับซ้อน
.
คุณจะทำยังไง? อธิบายแบบเยิ่นเย้อ ใช้ศัพท์เทคนิคเต็มไปหมด? หรือคุณจะทำให้มันง่ายจนเด็กอนุบาลก็เข้าใจได้?
.
Jocko และ Leif บอกว่า ยิ่งง่าย ยิ่งดี! การทำให้แผนการซับซ้อนเกินไปเป็นสูตรสำเร็จของความล้มเหลว
.
"ถ้าแผนของคุณซับซ้อนเกินไป มันจะล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม" - Leif Babin
.
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังสอนคุณยายวัย 90 ปีให้ใช้สมาร์ทโฟน คุณจะไม่พูดถึง RAM, CPU, หรือ cloud storage แต่คุณจะบอกว่า "กดปุ่มนี้เพื่อโทร กดปุ่มนี้เพื่อถ่ายรูป" เท่านี้คุณยายก็ใช้ได้แล้ว!
.
ในการทำงานก็เช่นกัน ยิ่งคุณอธิบายแผนได้ง่ายและชัดเจนเท่าไหร่ ทีมของคุณก็จะยิ่งเข้าใจและทำตามได้ดีเท่านั้น
.
จำไว้ว่า: ความเรียบง่ายคือความงดงามสูงสุด โดยเฉพาะในการวางแผน!
.
.
------------------------------
.
7. [ Prioritize and Execute หรือพูดง่ายๆ ว่า "จัดลำดับความสำคัญแล้วลุยเลย!" ]
.
ฉากนี้: คุณเจอปัญหาระเบิดมาพร้อมกันหลายเรื่อง อาจจะเป็นระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ลูกค้าโวยวาย และพนักงานขอลาออกพร้อมกัน 3 คน
.
คุณจะทำยังไง? พยายามแก้ทุกปัญหาพร้อมกัน? หรือคุณจะหยุด หายใจลึกๆ แล้วจัดการทีละเรื่องตามลำดับความสำคัญ?
.
Jocko และ Leif บอกว่า การจัดลำดับความสำคัญและลงมือทำทีละเรื่องคือกุญแจสู่ความสำเร็จ!
.
"เมื่อคุณเจอปัญหาหลายอย่างพร้อมกัน จงหยุด มองภาพรวม จัดลำดับความสำคัญ แล้วลงมือทำทีละเรื่อง" - Jocko Willink
.
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นพ่อครัวในร้านอาหารที่วุ่นวาย ถ้าคุณพยายามทำทุกจานพร้อมกัน ทุกอย่างก็จะไหม้หมด! แต่ถ้าคุณจัดลำดับว่าอะไรต้องทำก่อน-หลัง แล้วทำทีละจาน ทุกอย่างก็จะออกมาสมบูรณ์แบบ
.
ในการทำงานก็เช่นกัน เมื่อเจอปัญหาหลายอย่าง จงหยุด คิด จัดลำดับ แล้วลงมือทำทีละเรื่อง คุณจะพบว่าปัญหาที่ดูเหมือนภูเขาจะค่อยๆ เล็กลงจนกลายเป็นเนินเขาที่ปีนข้ามได้ง่ายๆ
.
จำไว้ว่า: จงเป็นเหมือนนินจา - เงียบ สงบ และจัดการศัตรูทีละคน!
.
.
-----------------------------
.
8. [ Decentralized Command หรือพูดง่ายๆ ว่า "กระจายอำนาจ อย่าเป็นจอมบงการ!" ]
.
ฉากนี้: คุณเป็นผู้นำองค์กรขนาดใหญ่ มีพนักงานเป็นร้อย เป็นพัน
.
คุณจะทำยังไง? พยายามควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง? หรือคุณจะกระจายอำนาจและความรับผิดชอบให้ทีมงานของคุณ?
.
Jocko และ Leif บอกว่า การกระจายอำนาจคือวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการองค์กรขนาดใหญ่!
.
"ผู้นำที่พยายามควบคุมทุกอย่างจะจมอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อย และไม่สามารถมองเห็นภาพรวมได้" - Leif Babin
.
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ คุณไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ ตั้งแต่การแสดง แสง เสียง เครื่องแต่งกาย ฯลฯ คุณต้องไว้ใจทีมงานของคุณและให้อำนาจพวกเขาในการตัดสินใจ
.
ในองค์กรก็เช่นกัน เมื่อคุณกระจายอำนาจและความรับผิดชอบ ทีมงานของคุณจะรู้สึกเป็นเจ้าของงาน มีแรงจูงใจมากขึ้น และสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ฉุกเฉิน
.
จำไว้ว่า: ผู้นำที่แท้จริงไม่สร้างผู้ตาม แต่สร้างผู้นำคนอื่นๆ!
.
.
---------------------------------------
.
9. [ แผนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง...แต่ต้องยืดหยุ่นด้วยนะ! ]
.
ฉากนี้: คุณต้องวางแผนสำหรับโปรเจกต์ใหญ่ อาจจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ
.
คุณจะทำยังไง? วางแผนแบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน? หรือแค่กำหนดเป้าหมายคร่าวๆ แล้วค่อยว่ากันไป?
.
Jocko และ Leif บอกว่า การวางแผนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องยืดหยุ่นพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ด้วย!
.
"วางแผนให้ดี แต่เตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ เพราะไม่มีแผนไหนที่รอดพ้นการสัมผัสกับความเป็นจริง" - Jocko Willink
.
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังวางแผนปาร์ตี้วันเกิด คุณวางแผนทุกอย่างอย่างละเอียด ตั้งแต่เมนูอาหารยันเพลย์ลิสต์ แต่แล้วฝนก็ตกหนักในวันงาน! คุณต้องมีแผนสำรอง และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนทุกอย่างอย่างรวดเร็ว
.
ในธุรกิจก็เช่นกัน วางแผนให้ดี แต่ต้องพร้อมปรับเปลี่ยนเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีคู่แข่งอาจจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือเศรษฐกิจอาจจะผันผวน คุณต้องพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์
.
จำไว้ว่า: แผนที่ดีคือแผนที่ยืดหยุ่น เหมือนโยคะ แต่ในเวอร์ชั่นธุรกิจ!
.
.
-------------------------------------
.
10. [ การนำทั้งขึ้นและลง หรือพูดง่ายๆ ว่า "เป็นลูกน้องที่ดี เป็นเจ้านายที่เยี่ยม" ]
.
ฉากสุดท้าย: คุณอยู่ตรงกลางระหว่างเจ้านายและลูกน้อง เหมือนแซนด์วิชที่อร่อยที่สุดในโลก!
.
คุณจะทำยังไง? บ่นกับลูกน้องว่าเจ้านายไม่เข้าใจ? บ่นกับเจ้านายว่าลูกน้องทำงานไม่ได้เรื่อง? หรือคุณจะเป็นตัวเชื่อมที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันมากขึ้น?
.
Jocko และ Leif บอกว่า ผู้นำที่ยอดเยี่ยมต้องนำได้ทั้ง "ขึ้น" และ "ลง" ต้องรู้จักสื่อสารทั้งกับผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา!
.
"การนำขึ้นและลงคือการสร้างความเข้าใจ เป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารกับการปฏิบัติงานจริงของทีม" - Leif Babin
.
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นล่ามในการเจรจาระหว่างประเทศ คุณไม่ได้แค่แปลคำพูด แต่คุณต้องถ่ายทอดความหมาย อารมณ์ และบริบททางวัฒนธรรมด้วย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันอย่างแท้จริง
.
ในองค์กรก็เช่นกัน คุณต้องเป็นทั้ง "ล่าม" และ "ทูต" ที่เชื่อมโยงระหว่างวิสัยทัศน์ของผู้บริหารกับความเป็นจริงในการทำงานของทีม ช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
จำไว้ว่า: จงเป็นสะพานที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่กำแพงที่ขวางกั้น!
.
.
------------------------------
.
[ บทส่งท้ายอันตราตรึง ]
.
.
และทั้งหมดนี้คือบทเรียนสุดเข้มข้นจาก Jocko Willink และ Leif Babin สองอดีตนาวิกโยธินที่นำประสบการณ์จากสนามรบมาประยุกต์ใช้ในโลกธุรกิจ
.
คุณอาจจะคิดว่า "ฉันไม่ได้อยู่ในกองทัพ ฉันแค่ทำงานออฟฟิศธรรมดา จะเอาหลักการพวกนี้ไปใช้ได้ยังไง?"
.
แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่ หัวหน้าทีมในสตาร์ทอัพเล็กๆ หรือแม้แต่พ่อแม่ที่กำลังเลี้ยงลูกวัยซน หลักการเหล่านี้ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ทั้งนั้น
.
จินตนาการดูสิครับ... ถ้าทุกคนในทีมของคุณกลายร่างเป็นเจ้าของทุกปัญหา ทุกชัยชนะ และทุกความพ่ายแพ้... อะไรจะเกิดขึ้น?
.
ถูกต้อง! คุณจะได้ทีมที่แกร่งยิ่งกว่าโล่กัปตันอเมริกา เร็วปานสายฟ้าแลบ และมีพลังทำลายล้างเกินกว่าค้อนของธอร์!
.
คำคมสุดเดือด: "ความรับผิดชอบคือเกราะป้องกันชั้นเยี่ยม แต่ความกล้าที่จะยอมรับความล้มเหลวคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด"
.
"ความสำเร็จไม่ได้วัดจากจำนวนครั้งที่คุณล้ม แต่วัดจากจำนวนครั้งที่คุณลุกขึ้นมาและตะโกนว่า 'นี่คือความรับผิดชอบของฉัน!'"
.
.
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นฟ้า แล้วตะโกนสุดเสียงพร้อมกับแอด หลังอ่านบทความนี้จบว่า...
.
"ฉันคือเทพเจ้าแห่งความรับผิดชอบ! ต่อให้ฟ้าถล่ม ดินทลาย หรือเจ้านายอารมณ์บูด ฉันก็พร้อมรับมือ! แม้แต่ความล้มเหลวยังต้องขออนุญาตฉันก่อนเข้ามาในชีวิต! อูลล่าาาา!!!"
.
แล้วอย่าลืมวิ่งรอบบ้านหนึ่งรอบ เผื่อเพื่อนบ้านจะได้รู้ว่าคุณเพิ่งอ่านบทความเจ๋งๆนี้จบครับ!
.
.
.
.
#SuccessStrategies

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

https://www.facebook.com/pond.atichat

Previous
Previous

ท่องโลก YouTube ไปกับ 50 ช่องพัฒนาตนเองที่จะทำให้คุณเติบโตจนจำเวอร์ชั่นเดิมไม่ได้!

Next
Next

Manifest สั่งจิต พิชิตเป้าหมาย และพลังแห่งจักรวาลลล