วาบิ-ซาบิ: ปรัชญาญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณหัวเราะกับความไม่เพอร์เฟ็กต์

วาบิ-ซาบิ: ปรัชญาญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณหัวเราะกับความไม่เพอร์เฟ็กต์
.
ยินดีต้อนรับสู่ชมรมคนเบื่อความสมบูรณ์แบบ
.
หากคุณกำลังเหนื่อยล้ากับการไล่ตามชีวิตในฝันบน Instagram! เคยรู้สึกไหมว่าชีวิตเหมือนกำลังวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าที่ไม่มีวันหยุด แถมยังต้องยิ้มสวยๆ ให้กล้องด้วย? ถ้าใช่ ขอต้อนรับคุณสู่สโมสร "เหนื่อยจะตายแต่ต้องดูดี" ครับ
.
ลองนึกภาพดูนะครับ คุณตื่นเช้ามาก็ต้องรีบแต่งหน้าทาปากให้สวย ถ่ายรูปอาหารเช้าสุดเฮลตี้ แล้วรีบโพสต์ลง Instagram พร้อมแคปชั่น "ชีวิตดี เริ่มต้นวันด้วยความสดใส แฮชแท็ก morningroutine , แฮชแท็ก healthylife ทั้งที่ในใจอยากจะเขียนว่า "ช่วยด้วย ฉันเหนื่อยมาก! แฮชแท็ก saveме , แฮชแท็ก wanttоslеер
.
แต่บทความนี้ มีทางออกสุดเจ๋งมาแนะนำ นั่นคือปรัชญา "วาบิ-ซาบิ" จากแดนปลาดิบ ที่จะทำให้คุณเลิกคลั่งไคล้ความเพอร์เฟ็กต์ และมีความสุขกับชีวิตที่ "ไม่เพอร์เฟ็กต์" มากขึ้น... หรืออย่างน้อยก็หัวเราะให้กับมันได้
.
คิดซะว่าวาบิ-ซาบิคือวัคซีนป้องกันโรคบ้าความสมบูรณ์แบบ ที่กำลังระบาดหนักในโลกโซเชียล ฉีดเข็มเดียวจบ ไม่ต้องบูสเตอร์ให้ยุ่งยาก!
.
-----------------------------
.
วาบิ-ซาบิ 101
.
วาบิ-ซาบิ ไม่ใช่วาซาบินะครับ แต่เป็นปรัชญาที่มีรากเหง้ามาจากพุทธศาสนานิกายเซน ผสมกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น
.
คำว่า "วาบิ" แปลว่าความเรียบง่าย ส่วน "ซาบิ" แปลว่าร่องรอยแห่งกาลเวลา
.
ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือ การมองเห็นความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ และการยอมรับว่าทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ไม่มีอะไรคงทนถาวร
.
ลองนึกภาพนะครับ คุณมีแจกันเก่าสุดโปรดที่มีรอยร้าวเล็กๆ แทนที่จะทิ้งมันไป คุณกลับรู้สึกว่ารอยร้าวนั้นทำให้แจกันมีเสน่ห์มากขึ้น มันเล่าเรื่องราวของกาลเวลาและประสบการณ์ที่ผ่านมา นี่แหละครับคือหัวใจของวาบิ-ซาบิ
.
ในขณะที่ชาวตะวันตกพยายามสร้างความสมบูรณ์แบบ ชาวญี่ปุ่นกลับมองหาความงามในความไม่สมบูรณ์ เหมือนกับที่เราชอบดูคลิปพลาดท่าตลกๆ มากกว่าคลิปคนเต้นเป๊ะๆ นั่นแหละครับ
.
-------------------------
.
ทำไมญี่ปุ่นถึงชอบของพัง: เรื่องราวจากพิธีชงชาถึงอนิเมะ
.
วาบิ-ซาบิไม่ใช่แค่ปรัชญา แต่มันแทรกซึมอยู่ในทุกอณูของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ตั้งแต่พิธีชงชาไปจนถึงอนิเมะ มาดูกันว่ามันปรากฏในวัฒนธรรมญี่ปุ่นยังไงบ้าง:
.
1. พิธีชงชา
.
ในพิธีชงชา ชาวญี่ปุ่นใช้ถ้วยชาที่ไม่สมบูรณ์แบบ บางทีก็มีรอยร้าวหรือรูปทรงไม่สมมาตร เพื่อเตือนใจให้ซาบซึ้งกับความงามของช่วงเวลาที่ผ่านเลยไป ไม่ใช่การดื่มชาเร็วๆ แล้วรีบวิ่งไปทำงานเหมือนพวกเรา
.
ลองนึกภาพคุณกำลังจิบชาจากถ้วยที่มีรอยร้าวเล็กๆ แทนที่จะรู้สึกรำคาญ คุณกลับรู้สึกว่ามันทำให้ประสบการณ์การดื่มชาของคุณพิเศษขึ้น เพราะไม่มีใครมีถ้วยชาที่เหมือนกับคุณอีกแล้ว
.
2. อนิเมะและมังงะ
.
ในอนิเมะ คุณจะเห็นตัวเอกที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เช่น:
.
- เอ็ดเวิร์ด เอลริคจาก Fullmetal Alchemist ที่หุนหันพลันแล่นแต่รักน้องชายสุดหัวใจ
.
- กอนจาก Hunter x Hunter ที่ใสซื่อและบางครั้งก็โง่เขลา แต่มีพลังแห่งมิตรภาพอันยิ่งใหญ่
.
- ไลท์ ยางามิจาก Death Note ที่ฉลาดล้ำ แต่มีอีโก้สูงจนนำไปสู่หายนะ
.
3. สถาปัตยกรรม
.
แม้แต่ในสถาปัตยกรรม ชาวญี่ปุ่นก็ชอบสร้างบ้านที่ดูเหมือนจะพังแต่ไม่พัง เรียกว่าสไตล์ "ขอให้พังๆ หน่อย" นั่นเอง เช่น:
.
- บ้านชาที่ดูเก่าแก่แต่แข็งแรง
.
- สวนหินเซนที่ดูเหมือนทะเลทรายแห้งแล้ง แต่กลับสงบและสวยงาม
.
- วัดที่มีโครงสร้างไม้เก่าแก่ แต่ยังคงยืนหยัดมาหลายร้อยปี
.
4. อาหาร
.
แม้แต่ในอาหาร วาบิ-ซาบิก็ยังแทรกซึมอยู่:
.
- ซูชิที่วางปลาดิบบนข้าวอย่างไม่สมมาตร แต่กลับดูสวยงาม
.
- ชุดอาหารกล่องเบนโตะที่จัดวางอาหารอย่างไม่เป็นระเบียบแต่ลงตัว
.
- ขนมวากาชิที่มีรูปทรงไม่สมบูรณ์แบบ แต่สื่อถึงฤดูกาลและธรรมชาติ
.
วาบิ-ซาบิในวัฒนธรรมญี่ปุ่นสอนให้เราเห็นว่า ความไม่สมบูรณ์แบบไม่ใช่สิ่งที่ต้องซ่อนหรือแก้ไข แต่เป็นสิ่งที่ควรยอมรับและชื่นชม เพราะมันทำให้ชีวิตและศิลปะมีเสน่ห์และความหมายมากขึ้น
.
-------------------------
.
วิธีนำวาบิ-ซาบิมาใช้ในชีวิต โดยไม่ต้องย้ายไปอยู่วัด
.
1. มองหาความงามในความไม่สมบูรณ์:
.
2. ยอมรับการเปลี่ยนแปลง:
.
3. ลดความคาดหวัง:
.
4. ชื่นชมความเรียบง่าย:
.
5. เห็นคุณค่าของเวลา:
.
การนำวาบิ-ซาบิมาใช้ในชีวิตไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลิกพยายามหรือปล่อยปละละเลย แต่เป็นการเปลี่ยนมุมมองและให้คุณค่ากับสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากขึ้น ทำให้เราสามารถพบความสุขและความงามในช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิตประจำวันได้
.
----------------------
.
คุยกับผู้เชี่ยวชาญวาบิ-ซาบิ (ที่ไม่มีตัวตน)
.
ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีครับ คุณผู้เชี่ยวชาญ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องวาบิ-ซาบินะครับ ขอถามหน่อยว่า วาบิ-ซาบิต่างจากความขี้เกียจยังไงครับ?
.
ผู้เชี่ยวชาญ: (หัวเราะ) ต่างกันที่คำอธิบายครับ ถ้าคุณบอกว่า "ฉันไม่ล้างจานเพราะวาบิ-ซาบิ" ฟังดูเท่กว่า "ฉันขี้เกียจ" เยอะ แต่จริงๆ แล้ว วาบิ-ซาบิไม่ใช่ข้ออ้างในการปล่อยปละละเลยนะครับ มันคือการยอมรับว่าบางครั้งจานที่ไม่เรียงเป็นระเบียบก็มีเสน่ห์ของมัน แต่เราก็ยังต้องล้างมันอยู่ดี
.
ผู้สัมภาษณ์: เข้าใจแล้วครับ แล้วถ้าอยากเริ่มต้นชีวิตแบบวาบิ-ซาบิ ควรทำยังไงดีครับ?
.
ผู้เชี่ยวชาญ: เริ่มจากการเลิกอาบน้ำครับ... ล้อเล่นนะ (ยิ้ม) จริงๆ แล้ว เริ่มจากการยอมรับตัวเองแบบที่เป็น แล้วค่อยๆ ลดความคาดหวังลง ลองมองหาความงามในสิ่งธรรมดารอบตัว เช่น รอยแตกบนถนนที่มีหญ้างอกออกมา หรือถ้วยกาแฟเก่าๆ ที่มีรอยด่างแต่ชงกาแฟอร่อยที่สุด
.
ผู้สัมภาษณ์: แล้วถ้าเราทำแบบนี้แล้ว คนอื่นมองว่าเราแปลกล่ะครับ?
.
ผู้เชี่ยวชาญ: นั่นแหละครับ คือวาบิ-ซาบิที่แท้จริง! (หัวเราะ) การยอมรับว่าเราอาจจะดูแปลกในสายตาคนอื่น แต่เรามีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเอง นั่นคือการปฏิบัติวาบิ-ซาบิขั้นสูงแล้วล่ะครับ
.
ผู้สัมภาษณ์: สุดท้าย มีคำแนะนำอะไรสำหรับผู้อ่านที่อยากลองใช้ชีวิตแบบวาบิ-ซาบิไหมครับ?
.
ผู้เชี่ยวชาญ: อย่าลืมว่า วาบิ-ซาบิไม่ใช่ข้ออ้างในการปล่อยตัวนะครับ แต่เป็นการยอมรับและพัฒนาตัวเองอย่างมีสติ เริ่มจากการชื่นชมความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง แล้วค่อยๆ ขยายไปสู่การมองโลกรอบตัว คุณอาจจะแปลกใจที่พบว่า ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบนั้นสวยงามและมีความสุขมากกว่าที่คิด
.
ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณมากครับ คุณผู้เชี่ยวชาญ
.
------------------------
.
วาบิ-ซาบิ vs. โลกโซเชียล: ศึกแห่งศตวรรษที่ 21
.
ในยุคที่ Instagram เป็นเหมือนสนามประกวดนางงามจักรวาล วาบิ-ซาบิก็เหมือนเวทีประกวดความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่น่ารัก มาดูกันว่าสองแนวคิดนี้ต่างกันอย่างไร:
.
1. เรื่องความสมบูรณ์แบบ
โลกโซเชียล: ต้องมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ทุกภาพต้องผ่านการตกแต่ง ทุกมื้ออาหารต้องดูน่ากิน ทุกทริปต้องสุดฟิน
วาบิ-ซาบิ: ชีวิตที่สมบูรณ์แบบคือชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ ยอมรับว่าบางวันเราก็กินมาม่าบนเตียง และนั่นก็โอเค
.
2. เรื่องการช้อปปิ้ง
โลกโซเชียล: ต้องมีของใหม่ๆ ตลอดเวลา ตามเทรนด์ให้ทัน ซื้อของแบรนด์เนมเพื่ออวดในรูป
วาบิ-ซาบิ: ของเก่าก็เท่ได้ ถ้าคุณมีสตอรี่ที่ดีพอ เสื้อผ้าเก่าที่มีความทรงจำดีๆ มีค่ามากกว่าของแพงที่ซื้อมาแล้วใส่แค่ครั้งเดียว
.
3. เรื่องการท่องเที่ยว
โลกโซเชียล: ต้องไปที่ฮิตๆ ถ่ายรูปสวยๆ เช็คอินให้คนอิจฉา
วาบิ-ซาบิ: เที่ยวเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่เพื่อรูปถ่าย บางทีการนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่ชายหาดใกล้บ้านก็มีค่า
.
4. เรื่องความสัมพันธ์
โลกโซเชียล: ต้องโพสต์รูปคู่หวานๆ ทุกเทศกาล อวดความรักให้โลกรู้
วาบิ-ซาบิ: ความรักที่แท้จริงอยู่ในช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ เช่น การนั่งเงียบๆ ด้วยกันโดยไม่ต้องพูดอะไร หรือการช่วยกันล้างจานหลังมื้อเย็น
.
5. เรื่องการทำงาน
โลกโซเชียล: ต้องประสบความสำเร็จ มีตำแหน่งสูงๆ ทำงานในออฟฟิศหรู
วาบิ-ซาบิ: งานที่มีความหมายคืองานที่ทำให้คุณมีความสุขและได้ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร
.
6. เรื่องบ้าน
โลกโซเชียล: บ้านต้องสวยเหมือนในนิตยสาร ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ
วาบิ-ซาบิ: บ้านคือที่ที่คุณรู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเอง ความไม่เป็นระเบียบบ้างก็ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา
.
-----------------------
.
เมื่อคุณเลิกเพอร์เฟ็กต์ ชีวิตก็เพอร์เฟ็กต์
.
วาบิ-ซาบิไม่ใช่การยอมแพ้หรือปล่อยตัว แต่เป็นการยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์แบบก็มีเสน่ห์ในตัวมันเอง เมื่อเราเลิกวิ่งตามความสมบูรณ์แบบ เราจะพบว่าชีวิตที่ "ไม่เพอร์เฟ็กต์" นั้นสวยงามและมีความสุขมากกว่าที่คิด
.
การนำแนวคิดวาบิ-ซาบิมาใช้ในชีวิตประจำวันอาจทำให้คุณ:
.
1. ลดความเครียดและความวิตกกังวล
.
2. มีความสุขกับปัจจุบันมากขึ้น
.
3. ยอมรับตัวเองและผู้อื่นได้มากขึ้น
.
4. มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
.
5. เห็นคุณค่าในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว
.
6. มีความยืดหยุ่นในชีวิตมากขึ้น
.
7. สร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและจริงใจมากขึ้น.
.
สุดท้ายนี้ขอให้มีความสุขกับชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับคุณครับ!
.
.
.
.
#SuccessStrategies #WabiSabi

บทความโดย Pond Apiwat Atichat เจ้าของเพจ SuccessStrategies

.

https://www.facebook.com/SuccessStrategiesOfficial

https://www.facebook.com/pond.atichat

Previous
Previous

อิคิไก: ปรัชญาญี่ปุ่นที่จะทำให้คุณอยากคูล

Next
Next

คินสึงิ : ศิลปะแห่งความล้มเหลวที่สง่างาม